สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ม.ค. เกี่ยวกับผลการพบหารือแบบมาราธอนระหว่างนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว กับนายหวัง อี้ รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีน ที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันศุกร์ถึงวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่าเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลแดง ซัลลิแวนขอให้หวัง “ใช้อำนาจการต่อรองที่เหนือกว่า” เพิ่มแรงกดดันอิหร่าน ให้ยุติปฏิบัติการของกองกำลังฮูตีในเยเมน


ด้านจีนกล่าวว่า กำลังพูดคุยกับรัฐบาลเตหะรานในเรื่องนี้ “อย่างจริงจัง” แต่สหรัฐโต้แย้งว่า “สถานการณ์จริงยังคงเป็นไปในทางตรงกันข้าม”


ขณะเดียวกัน ซัลลิแวนหยิบยกประเด็น “ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้น” ระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย ขึ้นมาสนทนากับหวัง โดยรวมถึงการที่รัฐบาลเปียงยางเพิ่มความถี่ของการทดสอบอาวุธ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศหารือกัน เกี่ยวกับ วิกฤติการณ์ในเมียนมา ปัญหาการอ้างกรรมสิทธิทับซ้อนในทะเลจีนใต้ และสงครามในยูเครนซึ่งยังคงยืดเยื้อด้วย


ส่วนประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในไต้หวัน แน่นอนว่าต้องมีการสนทนา ซึ่งหวังกล่าวว่า “เรื่องไต้หวันถือเป็นกิจการภายในของจีนอย่างแท้จริง” และการเลือกตั้งของไต้หวันที่เพิ่งผ่านพ้นไป เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา “ไม่อาจเปลี่ยนแปลงพื้นฐานความจริงได้ว่า ไต้หวันคือส่วนหนึ่งของจีน”


เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงสุดของรัฐบาลปักกิ่งกล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ถือเป็น “ความเสี่ยงระดับสูงสุด” ต่อสันติภาพและความมั่นคงข้ามช่องแคบ คือ “การเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชไต้หวัน” และเรื่องเดียวกันนี้ถือเป็น “ความท้าทายใหญ่หลวงที่สุด” สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนเช่นกัน.

เครดิตภาพ : XINHUA