เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามกฎหมายจับกุมขายน้ำกระท่อมผิดกฎหมาย มีโทษตามมาตรา 50 จำคุก 6 เดือน-2 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 454 ตาม พ.ร.บ.อาหาร ปี 2522 ว่าด้วยเรื่องกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ซึ่งกระท่อมสารสกัดเป็น 1 ในบัญชีแนบท้ายรายการที่ 52 ต้องห้าม

ที่ จ.สุราษฎร์ธานี พบว่า บรรดารถกระบะเปิดท้ายขายน้ำกระท่อมริมถนนที่มีเป็นจำนวนมาก ได้ย้ายหายไป เช่น ถนนดอนนก หน้าศูนย์ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ริมถนนสุราษฎร์-นครศรี ถนนสุราษฎร์-ตะกั่วป่า รวมทั้งร้านขายใบกระท่อมสด ได้เก็บขวดน้ำกระท่อมและเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่เคยขายคู่กันออกจากชั้นวางแล้ว เนื่องจากตำรวจได้ข้อมูลมีบางร้านอาศัยช่องว่างกฎหมายลักลอบขายน้ำต้มกระท่อมนำไปผสมยาแก้ไอ หรือน้ำอัดลม สูตรสารเสพติด 4×100 ให้กลุ่มวัยรุ่น ผู้ขับรถยนต์

ล่าสุด พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้มอบให้ พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับ ป.ป.ส.ภาค 8 และสาธารณสุขอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี นำกำลังกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดจำหน่ายน้ำกระท่อมในพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตาม พ.ร.บ. พืชกระท่อม พ.ศ.2565 ตาม ม.24 จำนวน 3 ราย กรณีไม่มีป้ายเตือนบุคคลที่กฎหมายคุ้มครองจำนวน 2 ราย พร้อมของกลางน้ำต้มใบพืชกระท่อม

พ.ต.อ.ศิริชัย กล่าวว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การปิดประกาศหรือการแจ้งให้บุคคลที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายทราบถึงข้อห้ามขายใบกระท่อมหรืออาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหารที่มีใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือ ส่วนประกอบ พ.ศ.2566 ข้อ 3 ให้ผู้ขายใบกระท่อม หรืออาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหารที่มีใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบ มีหน้าที่ปิดประกาศหรือแจ้ง ณ สถานที่ขาย ให้ทราบถึงข้อห้ามขายแก่บุคคลตามมาตรา 24 วรรคหนึ่ง

โดยระบุข้อความ “ไม่ขายใบกระท่อม หรืออาหารที่มีใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบให้แก่บุคลดังต่อไปนี้ 1. บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปี 2. สตรีมีครรภ์ 3. สตรีให้นมบุตร” จะมีความผิดมาตรา 24 (มาตรา 33,42 ปรับเป็นพินัยไม่เกิน 30,000 บาท ) ถ้ามีการขายในสถานที่และขายโดยวิธีการที่กฎหมายห้ามขายหรือไม่ ฝ่าฝืน ผิดมาตรา 25 (มาตรา 33,42 ปรับเป็นพินัยไม่เกิน 50,000 บาท)