โทนี โรมีโอ ซีอีโอของบริษัทสำรวจทางทะเล “ดีพซี วิชั่น” ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ว่า บริษัทตรวจพบซากวัตถุขนาดใหญ่ รูปทรงคล้ายเครื่องบินจากคลื่นเสียงโซนาร์ ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นเครื่องบินรุ่น Lockheed 10-E Electra ที่ “อะมีเลีย เอียฮาร์ต” นักบินหญิงผู้มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 20 ขับเมื่อ 87 ปีก่อนและหายตัวไปพร้อมกับเครื่องบิน
เอียฮาร์ต หายตัวไปในวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1937 ระหว่างที่เธอพยายามจะทำสถิติในฐานะนักบินหญิงคนแรกที่ขับเครื่องบินพาณิชย์รอบโลกได้สำเร็จ โดยในครั้งนี้เธอมุ่งเป้าหมายว่าจะขับเครื่องบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกให้ได้

แต่หลังจากที่ เอียฮาร์ต ขึ้นบินพร้อมผู้ช่วยนำทาง เธอก็ไม่กลับมาอีกเลย ต่อมามีรายงานว่ามีคนเห็นเธอเป็นครั้งสุดท้ายที่ปาปัวนิวกินี และคาดว่าจุดที่เธอหายตัวไปคือบริเวณเกาะฮาวแลนด์ในมหาสมุทรแปซิฟิก
ต่อมาในวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1939 ก็มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า เอียฮาร์ต เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากหายสาบสูญ
โรมีโอ กล่าวถึงภาพวัตถุขนาดใหญ่ที่สร้างจากข้อมูลคลื่นเสียงสะท้อนใต้น้ำหรือคลื่นโซนาร์ว่าน่าจะเป็นเครื่องบินของ เอียฮาร์ต แต่เขาไม่ยืนยันว่าจะสามารถค้นพบซากร่างที่เหลืออยู่ของเธอหรือไม่


โดโรธี คอชแรน ภัณฑารักษ์แห่งพิพิธภัณฑ์อวกาศและอากาศยานแห่งชาติสหรัฐ แสดงความเห็นว่าจุดที่บันทึกภาพดังกล่าวนั้นเป็นตำแหน่งที่คาดว่าเครื่องบินของ เอียฮาร์ต หายไปจริง เธอยังระบุว่าการหายตัวไปของนักบินหญิงผู้โด่งดังคนนี้นับว่าเป็นหนึ่งในปริศนาที่ลึกลับที่สุดของศตวรรษที่ 20 จนถึงปัจจุบัน และหวังว่าปริศนานี้จะได้รับการคลี่คลายในเร็ววัน
ก่อนหน้าเคยมีบริษัทสำรวจทางทะเล “นอติโกส์” เปิดโครงการสำรวจและค้นหาเครื่องบินของ เอียฮาร์ต ถึง 3 ครั้ง ระหว่างปีค.ศ. 2002-2017 แต่ไม่พบอะไรเลย
บริษัทของ โรมีโอ ทุ่มทุนไปราว 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 320 ล้านบาท) เพื่อค้นหาซากเครื่องบินในพื้นที่ราว 6,000 ตารางไมล์ของมหาสมุทรแปซิฟิก และการเก็บภาพได้ในครั้งนี้ทำให้ โรมีโอ ตื่นเต้นมาก พร้อมทั้งกล่าวว่าเขากำลังวางแผนที่จะกลับไปยังจุดที่บันทึกภาพได้และหาทางที่จะเก็บภาพที่ชัดเจนขึ้นของวัตถุลึกลับที่เขาค่อนข้างมั่นใจว่าจะเป็นซากเครื่องบินของนักบินหญิงที่หายตัวไปอย่างปริศนารายนี้
ที่มา : foxnews.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, Deep Sea Vision