เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เสนอให้ ครม.พิจารณาเรื่องการเช่า Device หรืออุปกรณ์สนับสนุนการเรียนการสอนให้กับนักเรียน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือ Anywhere Anytime โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (1 นักเรียน 1 Tablet) ซึ่งการเช่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะใช้งบประมาณรายจ่ายซึ่งเป็นงบฯผูกพัน 5 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2568-2572 จำนวนกว่า 2 หมื่นล้านบาท เป็นการเสนอเช่าทั้งแท็บเล็ต โครมบุ๊ก และโน้ตบุ๊ก เพราะ ศธ.เห็นว่าแต่ละอุปกรณ์ก็จะมีความเหมาะสมกับการใช้งานของนักเรียนแต่ละช่วงวัย เช่น นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายน่าจะเหมาะกับอุปกรณ์โน้ตบุ๊กที่สามารถใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งการเรียนโค้ดดิ้ง และใช้งานอื่น ๆ เป็นต้น ส่วนเด็กเล็กน่าจะเหมาะใช้งานกับอุปกรณ์แท็บเล็ต ดังนั้น ศธ.จึงมีการเสนอให้มีการเช่าอุปกรณ์แบบกว้าง ๆ ที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละช่วงวัย

“งบประมาณที่ ศธ.เสนอให้ ครม.พิจารณากว่า 2 หมื่นล้านบาทนี้ ในปีแรก ปีการศึกษา 2568 ศธ.วางแผนว่าจะแจกโน้ตบุ๊กให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนคุณภาพก่อน จากนั้นในปีถัด ๆ ไปจะเริ่มทยอยแจกนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนอื่น ๆ รวมถึงนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับประถมศึกษาต่อไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้ใช้งบประมาณค่อนข้างมาก ดังนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ ศธ.กลับมาจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมในบางประเด็นแล้วพิจารณาร่วมกับทางเลขาธิการนายกรัฐมนตรี คณะทำงานนายกรัฐมนตรี และกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวคุ้มค่ามากที่สุด แล้วให้นำเรื่องกลับมาเสนอ ครม.พิจารณาอีกครั้งในการประชุมนัดหน้า” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว

นายสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่ ศธ.จะเสนอขออัตราจ้างนักการภารโรงให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ จำนวน 12,000 อัตรานั้น ในการประชุม ครม.ในวันนี้ ยังไม่มีการหยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาแต่อย่างใด โดยคาดว่าทั้งเรื่องการขออัตรานักการภารโรง และการเสนอขอเช่าอุปกรณ์สนับสนุนการเรียนการสอนให้กับนักเรียน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลานี้ จะเสนอให้ ครม.พิจารณาได้พร้อมกันในการประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า.