เมื่อวันที่ 31 ม.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าคดีรีดทรัพย์ ของขบวนการนายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวก ว่า กรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า วันที่ 28 พ.ย. 66 นายหมู ได้พาอธิบดีกรมการข้าว และภรรยาไปเจรจากับนายศรีสุวรรณ ที่บ้าน และมีการจ่ายเงิน 6 หลัก ให้กับนายศรีสุวรรณ นั้น ยืนยันว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน

‘บิ๊กเต่า’ ฮึ่มจ่อหมายจับ 2 ตัวการสำคัญ ‘แก๊งศรีสุวรรณ’ ลุยแจ้งข้อหา ‘พิมณัฏฐา’ เพิ่ม

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า วันดังกล่าวเป็นเพียงการเจรจาขอให้ยุติการร้องเรียน ไม่มีการพูดคุยเรื่องผลประโยชน์หรือการจ่ายเงินแต่อย่างใด โดยการจ่ายเงิน 6 หลักนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่นายศรีสุวรรณ สึกจากการบวชเป็นพระ แต่ในระหว่างบวชก็มีการเจรจามาโดยตลอด ดังนั้นหลังจากนี้จะเชิญนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และนายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ที่ปรึกษากฎหมายของอธิบดีกรมการข้าว มาทำความเข้าใจข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไป

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าพนักงานสอบสวน บก.ปปป.จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่างแน่นอน จะยึดตามพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้กลั่นแกล้งรังแกใคร ไม่มีใต้ดินใดๆ ตอนนี้ข้อเท็จจริงกำลังเปิดเผยข้อมูลของบุคคลชั่วร้ายออกมา ว่าทำไมขบวนการนี้ถึงได้รู้ข้อมูลวงในของหน่วยงานรัฐ เป็นมืออาชีพที่ชั่วร้าย

รอง ผบช.ก. กล่าวว่า แก๊งดังกล่าวไม่ใช่การร้องเรียนเพื่อให้ประเทศชาติดีขึ้น แต่เป็นเหลือบไร เป็นสุนัขข้างทาง เป็นไรข้างถนน ที่จะพยายามจะไล่เห่า ไล่กัดเพื่อแย่งอาหาร อาหารก็เปรียบเสมือนงบ พวกนี้ก็จะล้อมหน้าล้อมหลังเอาเศษอาหาร เป็นพวกขี้เรื้อน ดังนั้นต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ยืนยันคดีนี้หากหลักฐานไม่พอ จนมั่นใจขนาดนี้ ตำรวจ บก.ปปป. ก็คงไม่กล้ารบกับยักษ์ขนาดนี้ ซึ่งมีทั้งพ่อยักษ์ และลูกยักษ์ ถ้าใครคิดว่าอยู่เหนือกฎหมายก็ลอง