จากกรณีกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นเยาวชน 7 คน ก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกายคู่อริภายในบริเวณโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ได้ สาเหตุเกิดจากมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน กระทั่งผู้ปกครองได้พาบุตรหลานของตนเองเข้ามอบตัวกับตำรวจ

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. พ.ต.ท.ฐิติพันธ์ นิติธรรมสารพล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.กุฉินารายณ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมด้วย ร.ต.อ.เอนก สุตนนท์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ เจ้าของคดีนำตัวเยาวชนชายอายุระหว่าง 14-17 ปี รวม 7 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกายคู่อริเยาวชนชาย อายุ 17 ปี ภายใน รพ.สมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ มาสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ประกอบด้วยพนักงานอัยการ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ซึ่งมีผู้ปกครองร่วมรับฟังด้วย

เบื้องต้น ทั้งหมดยอมรับว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุตามคลิปจากกล้องวงจรปิดจริง หลังจากมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันกับฝ่ายตรงข้าม ที่บริเวณถนนทางเข้าบ้านหนองบัวทอง ต.สมสะอาด อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ก่อนที่จะมาถึงโรงพยาบาล เพราะต่างคนต่างมาเยี่ยมเพื่อนของตนเองที่ได้รับบาดเจ็บ จึงเกิดการเขม่นกันอีกรอบและก่อเหตุดังกล่าว

พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น พร้อมกับพาตัวไปยื่นต่อศาลเยาวชนและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์ และทำหนังสือไปยังสถานพินิจให้รับทราบ ซึ่งคดีนี้คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณเดือนเศษถึงจะทราบผลว่าศาลพิจารณาอย่างไร เพราะต้องรอรายงานจากสถานพินิจ

อย่างไรก็ตาม การสืบสวนพบว่า เหตุทะเลาวิวาทในมีการทำร้ายร่างกายกันก่อนที่จะมาก่อเหตุในโรงพยาบาล ซึ่งในครั้งนี้มีการใช้อาวุธปืนด้วยนั้น ตอนนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองฝ่ายแล้ว ส่วนอาวุธปืนจากการตรวจสอบพบว่า เป็นอาวุธปืนที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง ใช้กระสุน .22 ไม่มีเกลียวลำกล้อง จึงไม่เกิดเหตุรุนแรง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและรอพยานมาชี้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองฝ่าย จากนั้นจะนำตัวผู้ก่อเหตุเบื้องต้นทราบว่ามี 2 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับโทษตามกฎหมาย มาตรา 299 ผู้ใดเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลแต่สามคนขึ้นไป และบุคคลหนึ่งบุคคลใดไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการนั้นหรือไม่รับอันตรายสาหัส โดยการกระทำในการชุลมุนต่อสู้นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ