เมื่อวันที่ 1 ก.พ. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยเร็วๆ นี้ จะมีการทำความร่วมมือลดหนี้ครูร่วมกับสถาบันการเงินต่างๆ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยความร่วมมือดังกล่าวจะมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีกับครูกลุ่มสีแดงระดับวิกฤติไว้ 3 ปี ลดอัตราดอกเบี้ย การขยายงวดการผ่อนชำระหนี้ หรือแม้กระทั่งการรวมหนี้ไว้ก้อนเดียว ส่วนสถานีแก้หนี้ครูระดับเขตพื้นที่การศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นั้น ที่ประชุมได้รับรายงานว่าสถานีแก้หนี้ครูแต่ละแห่ง ดำเนินการช่วยเหลือแก้หนี้ครูได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับฟังข้อมูลหนี้ครูประเภทต่างๆ เพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วย
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบว่าขณะนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ขอความร่วมมือสหกรณ์ออมทรัพย์ครูในการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่ครูไม่ให้เกิน 4.75% ของจำนวนเงินกู้ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไปหลายแห่งแล้วประมาณ 17 แห่ง อีกทั้งขอให้มีการรวมหนี้ของแต่ละสหกรณ์ออมทรัพย์ครูด้วย เพื่อเกิดประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาหนี้ครู ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ยังได้มีหนังสือสั่งการกำชับให้หน่วยงานใน ศธ. ที่รับผิดชอบการหักเงินเดือนของข้าราชการครู ต้องทำตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการหักเงินเดือนบำนาญข้าราชการเพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้แก่สวัสดิการภายในส่วนราชการและสหกรณ์ปี 2551 ซึ่งข้าราชการจะต้องมีเงินเดือนสุทธิหลังหักจากพักชำระหนี้ไม่น้อยกว่า 30% อย่างเคร่งครัดด้วย และหนังสือการเซ็นยินยอมให้หักเงินเดือน จะต้องเขียนระบุให้ชัดเจนตามระเบียบ ศธ. ฉบับดังกล่าว ไม่ใช่เขียนเปิดช่องไว้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา เพราะหากมีการหักเงินเดือนเกินตามระเบียบนี้ จะถือว่าเจ้าหน้าที่มีความผิด รวมถึงได้แจ้งให้เขตพื้นที่หรือหน่วยราชการสังกัด ศธ. ทราบว่า จากนี้ไปหากมีกรณีครูที่ถูกฟ้องร้องล้มละลาย ไม่ถือว่าเป็นเรื่องทุจริต เนื่องจากการถูกฟ้องร้องล้มล้ายจากหนี้สิน ไม่ต้องออกจากราชการด้วย เพราะได้รับทราบว่าครูมีความกังวลกับเรื่องนี้