เมื่อวันที่ 26 ก.ย. นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา รายงานผลกระทบจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชันเตี้ยนหมู่ ที่ส่งผลให้โบราณสถาน และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา โดยเฉพาะที่ อ.พิมาย เกิดน้ำท่วมขัง และได้เร่งแก้ไขปัญหาพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมในอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย เป็นน้ำท่วมขังสะสมในบริเวณพื้นที่ส่วนต่างๆของปราสาทพิมาย เนื่องจากเป็นที่ต่ำกว่าบริเวณโดยรอบ สำนักศิลปากรที่ 10 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดต่างๆ เพื่อสูบน้ำออกจากบริเวณปราสาทลงสู่ท่อระบายน้ำของเทศบาลพิมาย โดยจัดเจ้าหน้าที่ควบคุมตลอด 24 ชั่วโมง ขณะนี้เริ่มกลับเข้าสู่ปกติแล้ว
นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานกุฏิฤาษี ที่อยู่ห่างปราสาทพิมายไปทางใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร มีน้ำเอ่อล้นสระน้ำที่อยู่โดยรอบโบราณสถาน ทางอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออกทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่สภาวะปกติภายในวันนี้(26 ก.ย.)
ส่วนที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย ล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำมูลเริ่มสูงขึ้น อีกประมาณ 3-5 ซ.ม. ก็จะถึงระดับสันเขื่อนของพิพิธภัณฑ์ โดยในช่วง 3 วันที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์และเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหารช่างที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ได้เร่งก่อกระสอบทรายกั้นบริเวณริมตลิ่งด้านหน้าพิพิธภัณฑ์และบริเวณประตูน้ำที่เชื่อมคลองคูเมือง ทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออกตลอดเวลาแล้ว ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อว่า สำหรับปราสาทพะโค อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา มีซากอาคารโบราณสถาน 2 หลัง มีสระน้ำล้อมรอบ 3 ด้าน ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำลำพระเพลิง เคยถูกน้ำท่วมเมื่อเดือน พ.ย. 2563 สำนักศิลปากรที่ 10 ได้เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่าโบราณสถานยังอยู่ในสภาพปกติไม่มีน้ำท่วมขัง เนื่องจากเขื่อนลำพระเพลิงมีการระบายน้ำไปแล้ว และมีการขุดลอกลำพระเพลิง ทำให้น้ำสามารถไหลระบายไปยังพื้นที่ตอนล่างได้ดีขึ้น จึงไม่ทำให้เกิดน้ำท่วมในบริเวณนี้
