จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ก.พ. เนื่องในคดีพิเศษที่ 10/2567 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยกองคดีฟอกเงินทางอาญา ได้เปิดปฏิบัติการบุกจับ “18 เครือข่ายโกฟุก” หรือเครือข่ายนายสง่า กังวาล อายุ 60 ปี โดยกระจายกำลังตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 27 จุด ทั่วจังหวัดกรุงเทพมหานครและจังหวัดระนอง พร้อมติดตามจับกุม 18 ผู้ต้องหา ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์หลอกลวงให้ประชาชนเข้าซื้อรางวัลเลขท้ายของรางวัลที่ 1 และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว โดยอ้างอิงผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งนำผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลของประเทศต่างๆ มาประกอบในการเชิญชวนให้มีการเล่นการพนันภายใต้เว็บไซต์หลายเว็บไซต์ เช่น ร่ำรวยร้อยล้าน, นพเก้า, นาคราช, ชอบหวย, ล้อตโต้เอ็มเอ็ม, ดีเอ็นเอ และเยเย่ พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 1,000 ล้านบาท ล่าสุดจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 7 ราย ตรวจยึดทรัพย์สินและพยานหลักฐานหลายรายการ ประกอบด้วย รถยนต์หรู ยี่ห้อ Audi, Mercedes-Benz, Porsche, Toyota Alphard, Suzuki Lapin ทองรูปพรรณ สินค้าแบรนด์เนม กระเป๋า อาวุธปืน และอื่นๆ ขณะที่นายสง่า หรือโกฟุก เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุม ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
บุกจับ “18 เครือข่ายโกฟุก” ปมฟอกเงินเว็บพนัน ค้น 27 จุด ขยายผลโยงเลี่ยงภาษีน้ำมันหมื่นล้าน!
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.พ. “ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์” ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะรักษาแทนอธิบดีฯ เกี่ยวกับผลการตรวจค้นจับกุม 18 เครือข่ายโกฟุก ว่า ตนได้รับรายงานของคณะพนักงานสอบสวน ทราบว่าจับกุมได้แล้ว 7 ราย โดยเป็นลูกน้องของโกฟุก แต่มี 1 ใน 7 รายนี้ที่อยู่ระดับรองลงมาของโกฟุก เป็นหัวคิดระดับแกนนำ มีพฤติการณ์ลักษณะร่วมกันคิดกับโกฟุก ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบัญชีม้า กลุ่มดำเนินการเกี่ยวกับระบบการรับจ่ายเงิน และดูแลด้านอินเทอร์เน็ต (IT) อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาอีก 11 ราย ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะผู้ต้องหารายสำคัญอย่างโกฟุก ซึ่งทราบจากรายงานว่าภายหลังจากที่ศาลอาญาอนุมัติหมายค้นและหมายจับนั้น โกฟุกไหวตัวทัน ได้มีการชิงหลบหนีออกจากประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยที่ไม่พบรายงานการเดินทางออกนอกประเทศผ่านท่าอากาศยาน ส่วนตัวบงการใหญ่กว่าโกฟุกนั้น ในขณะนี้ยังไม่พบว่ามีคนบงการที่ตัวใหญ่กว่าโกฟุกแต่อย่างใด ทั้งนี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังไม่พบข้อมูลหลักฐานในสำนวนการสอบสวนว่า “โกฟุก” มีความสัมพันธ์พิเศษกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่นหรือไม่ มีเพียงคำพูดที่พูดต่อๆ กันมาเท่านั้น แต่ตนเชื่อว่าโกฟุกต้องมีลมใต้ปีกคอยให้ความช่วยเหลือ อย่างไรเราจะต้องขยายผลไปอีกสักระยะหนึ่ง
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยถึงฐานความผิดของ 18 ผู้ต้องหา ว่า คณะพนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และเมื่อสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 7 รายเสร็จสิ้น ก็ต้องดูผลการสอบปากคำว่าพบใครที่ร่วมกระทำผิดอีกหรือไม่ และถ้าพบเพิ่มเติมก็ต้องดำเนินการทางคดีเช่นกัน ซึ่งอาจเป็นกลุ่มบัญชีม้าแถวอื่นๆ เพราะมีความเชื่อได้ว่าการทำธุรกรรมทางการเงินของขบวนการเครือข่ายโกฟุก อาจเชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่นด้วย รวมถึงพนักงานสอบสวนจะตรวจสอบ ขยายผลเรื่องการยักย้าย ถ่ายเททรัพย์สินของผู้ต้องหาทุกรายว่าถูกนำไปซุกซ่อน เปลี่ยนแปลงสภาพหรือไม่
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยด้วยว่า สำหรับวงจรบัญชีม้าที่เข้ามาเกี่ยวข้องในขบวนการโกฟุกนั้นมีจำนวนมาก ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องไล่เรียงและตรวจสอบว่าเงินถูกจ่ายโอนไปยังใครบ้าง เนื่องจากโกฟุกมีวิธีการอำพรางเส้นทางการเงิน เป็นแผนประทุษกรรมที่ไม่ให้เจ้าหน้าที่สืบสาวถึงตัวเองได้ แต่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอสามารถสืบสวนจนเจอว่าบัญชีม้าต่างๆ เกี่ยวข้องกับโกฟุกอย่างแน่นอน
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยต่อว่า “โกฟุก” เป็นคนสองสัญชาติ คือ ไทยและเมียนมา โดยพื้นเพโตมาจากจังหวัดระนอง และมาประกอบธุรกิจอินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ ในกรุงเทพฯ ซึ่งออฟฟิศที่ทำเรื่องหวยใต้ดินออนไลน์ พบว่ามีการตั้งออฟฟิศอยู่ประเทศไทย และยังพบว่าในบางช่วง โกฟุกมีการเดินทางข้ามไปดำเนินธุรกิจที่ประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย ซึ่งเงินที่ได้ก็จะมีการถือข้ามระหว่างประเทศไทยและประเทศปลายทาง ส่วนผลการตรวจยึดเรื่องทรัพย์สินต่างๆ เจ้าหน้าที่พบรายการทรัพย์สินแบรนด์เนมจำนวนมาก ทั้งกระเป๋ายี่ห้อหรู เครื่องประดับ ซึ่งรายการทรัพย์สิน 1 ชิ้นมีมูลค่าหลักแสนบาท และมีหลายร้อยชิ้น รวมมูลค่าหลายสิบล้านบาท โดยตนจะแถลงผลการตรวจค้นจับกุมและรายละเอียดการสอบปากคำในวันจันทร์ที่ 5 ก.พ. เวลา 14.00 น. ณ ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เนื่องจากต้องขอเวลาให้พนักงานสอบสวนดำเนินการทางคดีให้เสร็จสิ้นครบถ้วนก่อน ส่วนการให้ปากคำนั้น ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะให้การหรือไม่ให้การก็ได้ จะให้การซัดทอดหรือไม่ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา ซึ่งตนก็จะพิจารณาถ้อยคำให้การและพฤติการณ์ของผู้ต้องหาจากรายงานนำเสนอของคณะพนักงานสอบสวน ว่าควรให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนหรือไม่
“เรื่องหวยออนไลน์เถื่อนไม่ซับซ้อน โกฟุกเป็นเจ้ามือหวยเถื่อนออนไลน์ และใช้เทคโนโลยีในการเข้ามาทำการซื้อขาย และในการจ่ายเงิน ดีเอสไอมีหน้าที่สืบสวนว่าใครเป็นผู้รับกินรับใช้ ใครเป็นผู้โฆษณาให้คนมาซื้อหวยลักษณะนี้ และใครเป็นบัญชีม้าที่มาคัตเอาต์ตัวรับผลประโยชน์ที่แท้จริง จึงเป็นที่มาของการเปิดปฏิบัติการทลาย 18 เครือข่ายโกฟุก เเละจะขยายผลต่อไป” พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุปิดท้าย.
