นายสุขุม ธรรมณีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยเร้นท์อะคาร์ โฮลดิ้ง ซึ่งมีธุรกิจในเครือครอบคลุมธุรกิจรถเช่าภายใต้ บริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และเป็นผู้นำธุรกิจบริการรถยนต์เช่าในประเทศไทยมายาวนานกว่า 45 ปี อีกทั้งมีธุรกิจรถหรูออดี้, ดูคาติ และดีลเลอร์ Mercedes Benz Benz Star Flag  ธุรกิจรถยนต์มือสอง ภายใต้แบรนด์ Car Hero รวมถึงธุรกิจสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมอย่างจักรยานไฟฟ้า RYDE CULTURE และยังเป็นเจ้าของธุรกิจตัวแทน จำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟพรีเมียมจากญี่ปุ่น Epon เจ้าของธุรกิจครีเอทีฟเอเจนซี่ด้านการตลาด Audacity Bangkok เปิดเผยว่า ด้วยฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างหลากหลาย ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ และจากความสำเร็จของทุกธุรกิจในปี พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา สามารถทำรายได้ทุกกลุ่มธุรกิจรวมกว่า 16,000 ล้านบาท ในปีนี้บริษัทจึงมีแผนที่จะผนึกกำลังทุกธุรกิจเพื่อขยายธุรกิจของบริษัทในเครืออย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะธุรกิจรถเช่า ไทยเร้นท์อะคาร์ ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตสูงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการขยายตัวของการท่องเที่ยวในประเทศไทย

สำหรับแผนการขยายธุรกิจรถเช่า ไทยเร้นท์อะคาร์ โฮลดิ้ง ภายใต้ทีมผู้บริหารใหม่ล่าสุด นำโดย นายคมสิทธิ์ แสงมณี กรรมการผู้จัดการ นั้นล่าสุดได้มีลงนามความร่วมมือกับ Enterprise Rent-A-Car ผู้นำตลาดรถเช่า อันดับ 1 จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ประสบความสำเร็จและเปิดให้บริการมายาวนานกว่า 65 ปี เพื่อขยาย ฐานกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวจากอเมริกา ที่ปัจจุบันนับเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่ติดอันดับ Top 5 ในประเทศไทย

คมสิทธิ์ แสงมณี

บริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ คอร์เปอเรชั่น เป็นผู้นำธุรกิจบริการ รถยนต์เช่าในประเทศไทยกว่า 45 ปี ให้บริการแก่ลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติทั่วประเทศ ด้วยมาตรฐานสากล โดยจุดเด่น คือ มีการบริการรถเช่าที่ครอบคลุมที่สุด ทั้งบริการรถเช่าระยะสั้น (ระยะสัญญา เช่ารายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน) การบริการรถเช่าสำหรับท่องเที่ยว และใช้สำหรับรถทดแทน บริการรถเช่า ระยะยาว (ระยะสัญญาเช่ารายปี) รวมถึงการบริการรถเช่าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน บริการรถเช่าสำหรับ องค์กร และบริการรถเช่าพร้อมคนขับ

นายคมสิทธิ์ แสงมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่าจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเติบโตเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์โรค ระบาดโควิด-19 จากปริมาณนักท่องเที่ยว จีน อเมริกา และยุโรป ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ส่งผลทำให้ผลประกอบการของ ไทยเร้นท์อะคาร์ ในปีที่ผ่านมาเติบโต โดยมีรายได้รวมสูงถึง 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 % จากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2565

สำหรับในปีนี้คาดว่าจะทำให้รายได้เติบโต 20% หรือมีรายได้ที่ 1,800 ล้านบาท พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดรถเช่าในประเทศไทยอย่าง เต็มรูปแบบ ทั้งนี้ยังมีแผนเพิ่มพื้นที่ให้บริการรวม 15 สาขา ทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มจำนวนรถเพื่อพร้อมให้บริการรวมกว่า 1,500 คัน ส่งผลให้สามารถบริการลูกค้าทั้งผู้เช่าในประเทศไทยและต่างประเทศได้อย่างทั่วถึงรวมกว่า 400,000 ราย