สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ว่า พื้นที่หนึ่งของนครลอสแอนเจลิส สามารถบันทึกปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 25 เซนติเมตร ในเวลา 24 ชั่วโมง โดยไม่มีการคาดการณ์ว่าจะลดลงในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้

นอกจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จนทำให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ ย่านฮอลลีวูดฮิลส์ และย่านเบเวอร์ลีเกล็นที่อยู่ใกล้เคียง ยังประสบเหตุดินถล่ม ซึ่งสร้างความเสียหายต่อรถยนต์หลายคัน และบ้านเรือนหลายหลังด้วย

CBS News

ด้านสำนักงานดับเพลิงนครลอสแอนเจลิส ระบุว่า มีการบันทึกเหตุน้ำท่วม 130 ครั้ง และตะกอนไหลหลาก 36 ครั้ง ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกหลายครั้ง เนื่องจากปริมาณน้ำฝนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่นักพยากรณ์อากาศจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐ (เอ็นดับเบิลยูเอส) คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกเพิ่มอีกอย่างมาก และเตือนถึง “น้ำท่วมฉับพลันที่เป็นอันตรายถึงชีวิต”

ทั้งนี้ สภาพอากาศสุดขั้วดังกล่าวทำให้นายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ส่วนใหญ่ของแคลิฟอร์เนียตอนใต้ พร้อมกับกล่าวเตือนประชาชนว่า นี่เป็นพายุรุนแรง ซึ่งมีผลกระทบที่เป็นอันตราย และอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

อนึ่ง การเดินทางทั่วภูมิภาคเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากการจราจรบนทางหลวงติดขัด และมีน้ำท่วมถนนหลายสายในเมือง แม้กระทั่งท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส ก็เลื่อนเวลาเทคออฟ หรือยกเลิกบางเที่ยวบิน เพราะสภาพอากาศที่เลวร้ายเช่นกัน

แม้สภาพอากาศที่เปียกชื้น ไม่ใช่เรื่องผิดปกติในช่วงฤดูหนาวของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ กำลังเปลี่ยนรูปแบบสภาพอากาศของโลก ส่งผลให้พายุรุนแรงยิ่งขึ้น และคาดเดาไม่ได้ ตลอดจนทำให้ช่วงแล้งฝน มีอากาศร้อน และยาวนานกว่าเดิม.

เครดิตภาพ : AFP