ยังคงเป็นที่จับตาอย่างต่อเนื่อง สำหรับคดีสะเทือนขวัญ หลัง “ช่างกิต” หรือ กิตติโชติ วัย 37 ปี ได้ก่อเหตุลั่นไกสังหาร และอุ้ม “ใหม่” หนุ่มโรงงานวัย 33 ปี สามีของน้องพร หญิงสาวที่ผู้ก่อเหตุแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง โดยภายหลังยังพบอีกด้วยว่า “น้องพร” ยังมีการคบซ้อนกับผู้ชายอีกหลายคน จนทำเอาคดีดังกล่าวถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในสังคมออนไลน์นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.พ. รายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ได้มีการพูดถึงคดีดังกล่าว โดย นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ได้แสดงความเห็นว่า ตอนนี้คือมีแต่คนแวดล้อม แต่ยังไม่รู้ว่าใครมัด ในรถมีรอยเลือดกระเด็นอีกรึเปล่า แต่สำคัญที่สุดคือใครมัด นั่นคือประเด็นที่หนึ่ง

ส่วนอีกหนึ่งประเด็นก็คือ ทางญาติของผู้เสียชีวิตก็บอกว่า ในวันที่ 27 ม.ค. พี่ชายเขาออกไปทำงานตอน 4 ทุ่มแล้วก็หายไปเลย แล้ววันที่ 28 ม.ค. ก็มีข้อความส่งเข้ามา ก็ต้องเป็นคนที่เอามือถือของใหม่ไปใช้ มันถึงต้องสัมพันธ์กันว่า วันนั้นเสียชีวิตหรือยัง แล้ววันนั้นช่วงเวลาตี 4 น้องพรก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปตามหา มันมีอะไรผิดปกติบางอย่างอยู่ แล้วน้องของใหม่ก็ยังบอกด้วยว่าปกติพี่ชายเขาออกเวร 8 โมงเช้า แล้วมันมีเหตุผลอะไรที่ต้องไปตามหาเวลานั้น

“พอเราดูภาพว่าเอก (แฟนอีกคนของน้องพร) มาที่บ้านกี่โมงก็ไม่ตรงกันแล้ว ตรงนี้จบเลย ผมไม่เชื่อ เราหาความจริงไม่ได้เลย แสดงว่าที่น้องพรพูดนี่เฟคนิวส์ทั้งหมด การไปถ่ายภาพก็ผิดปกติทั้งหมด ถามจริงๆ ว่าใหม่นี่เป็นแบบนั้นไหม ได้ยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นไหม ญาติๆ ก็ยืนยันว่าไม่มี เพื่อนๆ ก็ยืนยันว่าไม่เจ้าชู้ ผมถึงบอกว่ามันแปลกๆ ซึ่งในทางกฎหมายจะมีหลัก Innocent Agent คือการใช้ให้คนอื่นกระทำ โดยที่ตัวเองไม่ต้องทำเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก”

ผมสังเกตในเรื่องของการตั้งครรภ์มันเหมือนเป็นจุดเร่งให้ช่างกิต ที่อยากตัดวงจรที่ขอเป็นคนเดียวรึเปล่า ผมว่าน้องพรเขาฉลาด เขาน่าจะรู้เรื่องบางเรื่อง ซึ่งอย่างที่บอกว่าเราพิสูจน์จุดเชื่อมโยงเรื่องบางเรื่องไม่ได้ ก็ต้องลองเอาที่เขาให้สัมภาษณ์ไปให้ช่างกิตดู ผมว่าน่าจะมีอะไรบางอย่าง อีกอย่างการที่ให้คุณเอกมาที่บ้าน คือเอาให้มีพยานหลักฐานที่อยู่

ทางด้าน รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล หรือ อ.โต้ง รองอธิการบดีและประธานกรรมการ คณะอาชญวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต ให้ความเห็นว่า ในช่วงเวลา 22.06 น. ที่คุณพรบอกว่าสะดุ้งตื่นขึ้นมา จริงๆ แล้วผมว่าคุณพรรู้เวลา ว่าใหม่ต้องออกจากบ้านประมาณไหน เป็นไปได้ว่ารู้ว่าออกจากบ้านเวลานี้ ต้องนัดอีกคนเวลาไหน ให้อีกคนนึงเข้ามา ก็จะจำได้ว่านัดเวลาไหน ก็เป็นเวลาที่สามีออกไป ตรงนี้ก็เป็นส่วนพิสูจน์เจตนาแล้วว่า รู้หรือไม่รู้ว่ามีคนตามไปประกบ แล้วทำร้ายจนเสียชีวิต

“ประเด็นปัญหาตรงนี้มีอยู่เรื่องเดียวคือ คุณพรเข้าใจ 2 คำผิดพลาด คือ ความรักกับความใคร่ คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ทั้งหมด ประเด็นหนึ่งคือคุณพรโกหกคนทั้งโลกได้นะครับ แต่โกหกตัวเองไม่ได้ เพียงแต่ว่าความท้าทายคดีนี้ก็คือ ตำรวจจะหาความเชื่อมโยง พิสูจน์ใจของคนได้อย่างไร ว่าเจตนาหรือไม่เจตนา”

เท่าที่ทราบเรื่องเงินประกันที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เหมือนจะมีชื่อคุณพรอยู่ด้วย ซึ่งในหลายกรณีที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่มีมือที่สาม แต่ก็พบว่าผู้หญิงเป็นคนวางแผนฆาตกรรมเพื่อหวังเงินประกันชีวิตของสามีที่ทำไว้ ส่วนในกรณีนี้ ก็เป็นเรื่องของการสืบสวนต่อไป

จริงๆ แล้วมันยากอยู่ตรงที่การพิสูจน์ว่าน้องพรเป็นผู้ใช้ให้คนอื่นทำผิด ถึงแม้จะไม่มีแชต ก็ไม่ได้หมายความว่าคนนี้ไม่มีส่วนรู้เห็น หรือว่าไม่ได้ใช้ ข้อสงสัยอยู่บางประการคือทำไมช่างกิตรู้เวลาออกจากบ้าน รู้ว่าใช้ยานพาหนะอะไร ต้องตามประกบ นั่นหมายความว่าผู้ก่อเหตุต้องเฝ้ามาก่อน หรือว่าได้ข้อมูลจากใคร อีกประการที่สงสัยคือการออกมาตาม ทำไมคือต้องถ่ายภาพว่ามาตาม เป็นการสร้างถิ่นที่อยู่ว่าตัวเองอยู่ตรงนี้ ไปตามแล้ว ซึ่งคนร้ายในสมัยนี้ดูรายการต่างๆ ก็จะรู้แนวทางของตำรวจ ว่าทำอย่างไรให้จับได้หรือจับไม่ได้

“ส่วนพฤติกรรมของพร บางส่วนถึงแม้จะไม่มีแชต แต่คำพูดสามารถผลักดันคนได้ไหม ผมว่าเป็นไปได้ เพราะเขาเป็นนักจิตวิทยาตัวยง โดยไม่ต้องเรียนจิตวิทยา เพราะเขาใช้จิตวิทยาในการสื่อสารกับคน ดูได้จากการประมวลเรื่องราว การคบคน การเจรจา การบอกว่าท้อง แล้วมาบอกทีหลังว่าไม่ได้ท้องแต่แค่เรียกร้องความสนใจ จากอีกคนหนึ่งที่เขาจริงจังกับชีวิตให้ทำอะไรก็ได้ แล้วเขาก็รู้ว่าคนนี้นิสัยอย่างไร ว่าให้กระทำ หรือไม่กระทำอะไรก็ตาม”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @โหนกระแส