เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้ มีการพิจารณากระทู้ถามสดของนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ถามนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลกรมการขนส่งทางบก เรื่อง ปัญหาการจัดสายรถเมล์ใหม่ที่มีการปรับเลข ว่า เรื่องนี้ทำให้ประชาชนสับสน ทั้งๆ ที่กรมการขนส่งทางบก เคยทำประชาพิจารณ์แล้ว ประชาชนไม่เห็นด้วย ดังนั้นจึงขอถามว่าทราบหรือไม่ มีการกำหนดหมายเลขสายรถเมล์ใหม่ ซึ่งการจัดโซนแบบนี้ ทิศของแผนที่ผิดและมั่วมาก ท่านถูกกรมการขนส่งทางบก หลอกแล้ว อีกทั้งการปฏิรูปรถเมล์กลับทำให้เกิดปัญหา นอกจากนี้ ยังมีการลดรอบวิ่ง จึงอยากให้รัฐบาลอุดหนุนรถเมล์และเพิ่มจำนวนรถ ไม่ใช่สนใจแต่รถไฟฟ้า ไม่ทราบรัฐบาล มองคนใช้รถเมล์เป็นพลเมืองชั้นสองหรือไม่อย่างไร

ด้านนายสุรพงษ์ ชี้แจงว่า การวิ่งรถนั้นแบ่งเป็นโซนสี โดยภายในโซน เมื่อขึ้นไปแล้วหลง ก็จะสามารถกลับมาจุดเดิม ซึ่งเป็นการวิ่งรถกันภายในโซนสีเท่านั้น ส่วนรหัสในการเดินรถยอมรับว่ารัฐบาลเข้ามาทีหลังและพยายามศึกษาและแก้ไข ถ้าเสียงสะท้อนส่วนใหญ่ ออกมาเป็นอย่างไร คงจะมีคณะกรรมการขนส่งกลางมาดำเนินการ ส่วนการที่จะเปลี่ยนกลับไปกลับมา ตนไม่แน่ใจว่าจะเป็นผลดีหรือไม่ หรือจะเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนเข้าใจ คาดว่าไม่เกิน 90 วัน จะได้คำตอบ
นายสุรพงษ์ ชี้แจงว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ รถเมล์ต่อไปจะเป็นพระเอกใน กทม. ที่จะกลายเป็นรถอีวี วันนี้ระบบล้อระบบรางจะสัมพันธ์กัน ต่อไปรถ ขสมก. จะหายไปจากถนนหลายพันคัน เส้นทางการวิ่งก็จะปรับเปลี่ยนหลายเส้นทาง วันนี้รัฐบาลทำงานครึ่งปี พยายามวางแผนนำปัญหาเก่ามาปรับ มาเชื่อมโยงทำให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน ประเทศไทยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งของประเทศไทย โดยเฉพาะขนส่งสาธารณะ ขนส่งมวลชน โดยในต่างจังหวัดเราได้กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นมาร่วมจัดการเดินรถได้ วันนี้มีการเชื่อมโยงแบบบูรณาการ ต่อไปบทบาท บขส. จะลดลง ถ้ารถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูงเสร็จ ส่วนเรื่องหมายเลข ตนไม่ได้ยืนยันว่าเราทำถูกหรือทำผิด และไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกด้าน