นายชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปี 66 มีแนวโน้มที่ดี โดยตลาดรวมมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1.88 ล้านคัน เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4% โดยกลุ่มรถเอ.ที. ได้รับความนิยมสูงที่สุดมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 49% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5% ถือเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากการใช้งานที่สะดวกสบาย และมีสไตล์ให้เลือกอย่างหลากหลาย ในขณะที่อันดับรองลงมาเป็นรถครอบครัว โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 47% และกลุ่มรถสปอร์ตมีสัดส่วนอยู่ที่ 3%”

ในปี 66 รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1.47 ล้านคัน เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 6% และเติบโตมากกว่าตลาดรวม 2% จากการที่ฮอนด้าได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ไปพร้อมกับการผลักดันกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการขายไปทั่วประเทศ รวมถึงรถรุ่นใหม่อย่าง New Honda Giorno+ ที่เปิดตัวไปได้ไม่นาน ก็เป็นหนึ่งในรุ่นรถที่สามารถสร้างกระแสในกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยผลักดันให้กลุ่มเอ.ที. มีการเติบโตในปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ฮอนด้ายังคว้ายอดจดทะเบียนสูงสุด 5 อันดับแรก นำโดย Honda Wave110i ที่มีตัวเลขอยู่ที่ 511,659 คัน ตามด้วยอันดับที่ 2 คือ Honda Wave125i จำนวน 254,141 คัน อันดับที่ 3 เป็น Honda Scoopy จำนวน 218,113 คัน อันดับที่ 4 คือ Honda PCX160 จำนวน 146,212 คัน และอันดับที่ 5 Honda Click Series ที่มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 114,202 คัน

ตัวเลขดังกล่าว ยังทำให้ฮอนด้าคว้าอันดับ 1 ในทุกเซ็กเมนต์อีกด้วย โดย Honda Wave110i ครองความเป็นที่ 1 ในกลุ่มรถครอบครัว ในขณะที่ Honda Scoopy ครองอันดับ 1 ในกลุ่มรถเอ.ที. และในส่วนของกลุ่มรถสปอร์ต Honda CRF300L มียอดจำหน่ายสูงสุดในกลุ่มนี้ที่ 7,840 คัน

สำหรับในปี 67 ด้วยปัจจัยของสภาวะเศรษฐกิจของโลกที่ไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลงในเรื่องกฎหมายด้านการเงิน ปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง อาจทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อสินค้า และส่งผลให้ความต้องการในตลาดลดลง จึงคาดการณ์ว่าตลาดรถจักรยานยนต์ไทยจะมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ประมาณ 1.70-1.75 ล้านคัน โดยฮอนด้าวางเป้าจำหน่ายไว้ที่ 1.30-1.35 ล้านคัน

ในส่วนของตลาดรถบิ๊กไบค์ หรือรถจักรยานยนต์ขนาด 400cc ขึ้นไป ตลอดปี 2023 มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 15,468 คัน ลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ฮอนด้ามีตัวเลขอยู่ที่ 7,035 คัน เติบโตขึ้น 7% มากกว่าตลาดรวม และในปี 2024 นี้ คาดว่าตลาดรวมจะอยู่ที่ระดับ 15,000 คัน ในขณะที่ฮอนด้าตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ที่ 7,000 คัน โดยปัจจัยบวกที่ทำให้ฮอนด้าเติบโตประกอบไปด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่อย่าง Honda E-Clutch ในรถตระกูล 650Series และการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องให้กับผู้ใช้

“ปีนี้ ฮอนด้าพร้อมที่จะสร้างความคึกคักให้กับตลาด ผ่านการส่งมอบประสบการณ์ในการขับขี่ที่ไม่รู้จบ ทั้งรถจักรยานยนต์ที่เหมาะกับการใช้ชีวิตของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย และการจัดกิจกรรมให้กับผู้ใช้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยทุกกิจกรรมถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด”