สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ว่า กองทัพปากีสถานเผยแพร่แถลงการณ์ของ พล.อ.ไซเอ็ด อาซิม มูเนียร์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมปากีสถาน แสดงความยินดีที่การเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา “ผ่านพ้นไปด้วยดีและประสบความสำเร็จ”


ขณะเดียวกัน เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า ปากีสถานต้องการ “ความมั่นคง” ซึ่งจะสามารถนำพาบ้านเมืองให้หลุดพ้นจาก “อนาธิปไตยและการแบ่งแยก” การเลือกตั้ง “ไม่ใช่การแข่งขันแบบชี้ขาดมีผู้แพ้หรือผู้ชนะ” แต่เป็นการใช้สิทธิตามอำนาจของประชาชน ดังนั้น บรรดานักการเมืองควรพยายามบริหารประเทศ เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่น่าจะทำให้กลไกประชาธิปไตย สามารถขับเคลื่อนและบรรลุตามเป้าหมาย


ทั้งนี้ กองทัพปากีสถานมีอิทธิพลอย่างมากต่อภูมิทัศน์การเมืองของประเทศ ซึ่งเคยอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารหลายชุด เป็นระยะเวลานานรวมเกือบครึ่งหนึ่งของประวัติศาสตร์ประเทศ นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอินเดีย เมื่อปี 2490


อนึ่ง ผู้สมัครอิสระที่มีความเชื่อมโยงกับพรรคเตห์รีค-อี-อินซาฟ (พีทีไอ) ของนายอิมราน ข่าน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกแบนจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ทำผลงานได้ดีเกินความคาดหมาย โดยมีรายงานว่า ได้รับการเลือกตั้งไปแล้วอย่างน้อย 99 ที่นั่ง จากอย่างน้อย 366 ที่นั่ง ขณะที่พรรคสันนิบาตมุสลิมปากีสถาน-นาวาซ (พีเอ็มแอล-เอ็น) ของอดีตนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแล้ว 53 ที่นั่ง


แม้ยังเหลือที่นั่งอีกจำนวนมากซึ่งยังไม่มีการประกาศ และบรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ไม่น่ามีพรรคการเมืองใดได้รับเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ข่านและชารีฟต่างยืนยันว่า ตัวเองเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ และเรียกร้องพรรคการเมืองขนาดรองลงมา ให้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล


การเลือกตั้งทั่วไปของปากีสถานครั้งนี้ เหมือนเป็น “ภาพซ้ำรอย” การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2561 ซึ่งครั้งนั้นศาลตัดสิทธิชารีฟจากการลงสมัคร เนื่องจากเป็นบุคคลต้องคดีอาญา และข่านนำพรรคพีทีไอชนะการเลือกตั้ง ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ ข่านถูกตัดสิทธิทางการเมือง และศาลพิพากษาให้รับโทษจำคุกนานหลายสิบปี จากความผิดหลายคดี ที่ฝ่ายสนับสนุนมองว่า “เป็นข้อกล่าวหาทางการเมือง”.

เครดิตภาพ : AFP