บทสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟของวงไอดอลน้องสาวจากค่าย ArcJewel ประเทศญี่ปุ่น Euphonie (ยูโฟนี่) ที่ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน ได้แก่ แมรี่ Mary (สีชมพู), ปอปอ Porpor (สีส้ม), เอลฟ์ฟี่ Elffy (สีเขียวมิ้นท์), ส้มส้ม SomSom (สีม่วง), เพดเพด Petpet (สีครีม) ที่มาโปรโมตซิงเกิลใหม่ “Nano ส่งไปถึงเธอ” และพูดคุยถึงเส้นทางการเป็นไอดอล ความฝัน ความประทับใจ มิตรภาพที่สวยงามของพวกเธอทั้ง 5

Q : สำหรับซิงเกิลใหม่ล่าสุดของ Euphonie “Nano ส่งไปถึงเธอ” อยากส่งข้อความอะไรไปถึงแฟน ๆ

ส้มส้ม : “ก็อยากจะส่งความรู้สึกดี ๆ ความรู้สึกขอบคุณไปให้กับทุกคนที่ได้ฟังเพลงนี้ค่ะ ก็อยากจะบอกกับทุกคนที่ได้ฟังว่า อยากมีเธอเดินไปด้วยกัน”

เพดเพด : “คอยเคียงข้างคอยซัพพอร์ต เป็นกำลังใจไปด้วยกันนะ”

แมรี่ : “ไม่ว่าจะเป็นวันที่ดี หรือวันที่ไม่ดี ก็จะคอยอยู่ด้วยกันไปเสมอ”

ส้มส้ม : “หลังจากที่ปล่อยเพลงนี้ไป ก็จะมีแฟนคลับมาส่งข้อความให้ หรือแท็กสตอรี่มาว่า จะเดินด้วยกันไปจนสุดทางนะ ก็แปลว่าข้อความส่งไปถึงพวกเขาแล้วค่ะ”

Q : เล่าถึงการถ่าย MV เพลง “Nano ส่งไปถึงเธอ” ให้ฟังหน่อย?

ปอปอ : “ตอนถ่าย MV สนุกมาก ๆ เลย เราตื่นกันตั้งแต่เช้า ทุกคนตื่นเต้นมาก เพราะว่ามันเป็น MV แรกของพวกเราด้วย ทุกคนทุ่มเทมาก ทั้งพี่ทีมงานแล้วก็ทั้งพวกเราด้วย ทุกคนตั้งใจทำงานกันมาก งานทุกอย่างก็เสร็จตามแผนที่วางไว้ สนุกมากวันนั้น เจอเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย ต่อให้เจออากาศร้อนแค่ไหน เราก็สนุกกับมันได้ค่ะ”

Q : เหตุการณ์ที่น่าประทับใจในกองถ่าย MV

แมรี่ : “พี่ ๆ สตาฟฟ์ที่กองถ่ายดูแลเราดีมาก ๆ คอยเอาทิชชู่มาให้ซับเหงื่อ ยกน้ำยกอาหารมาให้ตลอด ดูแลเหมือนแม่ที่บ้านเลยค่ะ”

ส้มส้ม : “ตอนแรกเรากังวลมากเลย เพราะพวกเราไม่เคยถ่าย MV มาก่อน พวกเราจะทำกันได้ไหม แต่พอเราไปถึงหน้างาน แค่ผู้กำกับเขาบรีฟมา พวกเราสามารถถ่ายทุกอย่างออกมาดี โดยส่วนใหญ่จะเทคเดี่ยวผ่าน 2 เทคผ่าน ถือว่าพวกเราก็ค่อนข้างเก่งกันมาก ๆ เลยค่ะ”

เพดเพด : “ประทับใจทีมเต้น เพราะมันเป็นลองเทคที่ยาวนาน ทุกคนทำกันเต็ม อากาศก็ร้อนมาก ทุกคนก็ทำกันเต็มที่ แสดงออกเต็มที่ จบได้ภายใน 2 เทคตรงตามเวลาด้วย รู้สึกประทับใจเพื่อน ๆ มากที่สู้กัน”

Q : ซิงเกิล “Nano ส่งไปถึงเธอ” สาว ๆ มีส่วนร่วมอย่างไรบ้าง?

เอลฟ์ฟี่ : “ตอนที่เพลงออกมา จริง ๆ ทำนองไม่ใช่แบบนี้ค่ะ ตอนแรกมันเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วย พอเราได้ฟังแล้ว เราก็รู้สึกว่า บางช่วงหรือทำนองเพลง เราอยากให้มีความเป็น Euphonie มากกว่านี้”

แมรี่ : “อยากให้สดใส น่ารัก ขึ้นอีกนิดนึง ได้เสนอความคิดเห็นไป และเขาก็รับฟีดแบ็กจากพวกเรา ปรับให้เพลงออกมาเป็นแบบปัจจุบัน”

เอลฟ์ฟี่ : “จริง ๆ แล้วออริจินอลแรก ทางโปรดิวเซอร์เค้าให้มาแค่เป็นทำนองเฉย ๆ ที่ไทยจะใส่เนื้อเข้าไป แต่พอเป็นซิงเกิลเนี่ย เค้าให้มาหมดเลย เเล้วเราก็แปลเป็นภาษาไทย”

Q : แต่ละคนเป็นไอดอลกันมากี่ปีแล้ว?

เพดเพด : “หนูมาอยู่วงนี้ได้ประมาณ 7 เดือนแล้ว รู้สึกว่าสนุก แล้วก็ท้าทายมากกว่าที่คิดค่ะ ส่วนตัวชอบ เพราะว่ามันเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนพลังงานซึ่งกันและกัน ขณะที่เราแสดงอยู่บนเวที แฟนคลับก็เต็มที่ข้างล่างเหมือนกัน มันก็ทำให้เราได้รับเอนเนอร์จี้ตรงนั้นมา”

Q : ตอนที่วงเก่าปิดตัวไป ทำไมเพดเพดถึงยังอยากเป็นไอดอลต่อ?

เพดเพด : “หนูแค่รู้สึกว่าอยากได้ไปแสดงเวทีใหญ่ที่ต่างประเทศ อยากลองดู อยากรู้ว่ามันจะสนุกกว่านี้ไหม แฮปปี้ไหม”

Q : แล้วสนุกไหมครับ?

เพดเพด : “สนุกนะคะ มันไม่ได้เครียด แล้วเราก็ไม่ได้ตึงมากขนาดนั้น เราก็จอย แฟนคลับก็จอย”

Q : ส้มส้มละครับ เป็นไอดอลมากี่ปีแล้ว?

ส้มส้ม : “ตอนนี้ส้มก็เป็นไอดอลมาได้ 2 ปีกว่าค่ะ ตอนแรกส้มไม่เคยอยากเป็นไอดอลเลยนะคะ พอดีว่าถูกทาบทามมา แล้วเราก็เป็นแฟนคลับของไอดอลที่อยู่ในค่าย Siamdol อยู่แล้ว ชอบไอซ์สึค่ะ ตอนแรกส้มก็ลังเล แล้วเขาก็บอกว่า มาลองเป็นดูก็ได้ สัญญาปีเดียว ตอนแรกเราก็ตั้งใจว่า โอเคลองเป็นเล่น ๆ ปีเดียว แล้วเดี๋ยวก็ไป สรุปว่าพอเรามาอยู่ตรงนี้ แล้วมีคนสนับสนุนเรา เราก็รู้สึกว่าอยากอยู่ตรงนี้ไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังมีแฟน ๆ มีคนสนับสนุน มีเพื่อนดี ๆ เราก็ยังอยากอยู่ตรงนี้ไปเรื่อย ๆ”

เอลฟ์ฟี่ : “อยู่วงนี้ก็ 3 ปีได้แล้ว ก็อยู่ตั้งแต่แรกเลย”

Q : หลังออกจากวงเก่า อะไรที่เป็นแรงผลักดันให้เรายังเป็นไอดอลต่อ?

เอลฟ์ฟี่ : “ตอนนั้นหนูยังแทบจะไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำเลยด้วยซ้ำ หนูรู้สึกว่ามันยังไม่สุดสำหรับหนู ตัวหนูเองชอบ J-POP มาก ๆ ฝั่งนี้มันตอบโจทย์มากกว่า พอได้มาทำ เราก็รู้สึกว่า เออ..มันเป็นตัวเรา มันสนุกดี มันเป็นสิ่งที่เราชอบอยู่แล้ว ก็เลยอยากทำอะไรหลาย ๆ อย่าง แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง คือตอนที่หนูเห็นโปสเตอร์ตอนเขาประกาศรับสมัครออดิชั่น เค้าบอกว่ามีสิทธิได้ไปทำงานที่ญี่ปุ่น หนูก็เลยโอเค เอาตรงนี้แหละ”

Q : แล้วได้ไปญี่ปุ่นหรือยังครับ?

เอลฟ์ฟี่ : “ได้ไปแล้วค่ะ แต่ก็อยากไปอีก ไปอีกเรื่อย ๆ”

Q : ของปอปอ กี่ปีแล้วครับ?

ปอปอ : “ปอก็เป็นไอดอลมา 3 ปี Euphonie ก็เป็นไอดอลครั้งแรก แล้วก็เป็นไอดอลวงแรกด้วย เป็นมาตั้งแต่เริ่มแรกเลย ก่อนหน้านี้ไม่ได้คลุกคลีกับวงการไอดอลเลย แบบเลย… แต่ว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ช่วงผลัดเปลี่ยน เห็นใบออดิชั่นรับสมัครของทาง ArcJewel แล้วเห็นว่า เฮ้ย.. ได้มีโอกาสร่วมงานกับรุ่นพี่ที่ประเทศญี่ปุ่น เฮ้ย.. เราก็ชอบประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว เฮ้ย.. งานไอดอลก็ดูท้าทายดีนะ เราก็น่าจะทำได้นะ ก็เลยลองสมัครออดิชั่นดู แล้วก็ได้เลย ก็เลยรู้สึกว่า เออเราได้มาอยู่ตรงนี้ ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว ก็จะทำให้ดีที่สุดค่ะ”

Q : แมรี่อะครับ

แมรี่ : “ก็อยู่กับ Euphonie มา 3 ปีแล้วค่ะ เป็นวงที่ 2 ที่มาอยู่ ด้วยความที่หนูไม่ได้ย้ายบริษัทด้วย ระบบการทำงานก็ค่อนข้างเหมือนเดิม ไม่ค่อยมีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมเท่าไหร่”

Q : ตอนนั้นผู้บริหารให้เราย้ายมาวงนี้เหรอครับ?

แมรี่ : “ไม่ค่ะ หนูเป็นคนขอย้ายเอง แต่ก็มาออดิชั่นนะคะ ก็คือต้องออกจากวงเก่าก่อน แล้วก็มาออดิชั่นวงใหม่ ถ้าไม่ติดก็คือบ๊ายบายเลย ตอนนั้นตัดสินใจย้ายมา เพราะส่วนตัวรู้สึกชอบค่าย ArcJewel อยู่แล้ว แล้วก็เมื่อประมาณช่วง 7 ปีก่อนที่ ArcJewel มาแสดงที่ไทยครั้งแรก ทางฝั่งค่ายนั้นเขาเคยชวนหนูไปอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วย แต่ตอนนั้นไม่ได้ไป แล้วพอเค้ามาเปิดวงที่ไทย มันก็เป็นโอกาสให้เราได้ทำงานกับเขาแล้ว ก็เลยเริ่มที่จะมาเข้าร่วมทางนี้”

Q : ทำไมตอนนั้นเค้าชวนแล้วไม่ได้ไป

แมรี่ : “ตอนนั้นกำลังเรียนมหา’ลัยอยู่ค่ะ เป็นช่วงขึ้นปี 2 พอดี แล้วทีนี้ที่บ้านก็ไม่อยากให้ไป เค้ารู้สึกว่า เออเรียนมาขนาดนี้แล้ว ครึ่งทางแล้วอะ ถ้าเกิดไปแล้วต้องไปเริ่มเรียนใหม่ฝั่งโน้นอะ มันก็ลำบากนะ จริง ๆ ส่วนตัวก็อยากไป”

Q : จนถึงตอนนี้คิดว่า Euphonie ประสบความสำเร็จระดับไหนแล้วในวงการไอดอล

ปอปอ : “หนูว่า Euphonie เพิ่งเริ่มเดินทางได้อย่างเต็มที่ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาค่ะ เพราะ Euphonie เนี่ย เดบิวต์ปุ๊บ เจอโควิดเลย ก็เหมือนทิ้งเวลาไปเลยปีหนึ่ง พอโควิดเริ่มซา เราเริ่มได้ขึ้นสเตจ ได้ทำกิจกรรมมากขึ้น ก็เหมือนเราเพิ่งเริ่มออกเดินทางมาด้วยกัน ถือว่าประสบความสำเร็จมาประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ หนูว่าแค่ประมาณ 50% 60% ค่ะ เพราะว่าเราก็เพิ่งมี MV ตัวแรก แล้วก็เราก็ยังอยากจะมีผลงานมากมาย อยากจะมีผลงานเพิ่มเติมขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ และอยากให้ทุกคนรู้จักเรามากขึ้น”

เพดเพด : “ส่วนตัวคิดว่า จริง ๆ แล้ว Euphonie ก็ประสบความสำเร็จไปแล้วก้าวหนึ่งละกัน เพราะว่าเป็นวงที่ได้ไปแสดงงานใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าอันนั้นก็เป็นก้าวสำคัญสำหรับ Euphonie ที่จะเริ่มต้นใหม่หลังจากโควิด”

Q : นอกเหนือจากงานดนตรี แต่ละคนอยากทำอะไรในวงการบันเทิงอีกบ้าง

แมรี่ : “อยากจะลองทำงานพวกสายโฆษณา เป็นพรีเซ็นเตอร์ ไม่ก็งานการแสดงดู”

ปอปอ : “ปอปอก็สนใจงานด้านการแสดง แล้วก็งานพากย์เสียงค่ะ อยากลองทำดู อยากเป็นนักแสดงด้วย แล้วก็พากย์เสียงด้วย”

เอลฟ์ฟี่ : “จริง ๆ หนูชอบพูด ก็เลยรู้สึกว่าอยากลองเป็นแบบ MC เป็นพิธีกร แล้วก็อีกอันนึงที่แฟนคลับรู้ ก็คือหนูชอบเล่นเกม หนูอยากแคสเกมส์ แต่ก็ยังไม่ได้ทำ”

ส้มส้ม : “ของส้มก็คล้ายกับเอลฟ์ค่ะ เป็นสตรีมเมอร์เล่นเกมค่ะ เพราะว่าส่วนมาก นอกจากทำงานแล้ว ส้มก็จะเล่นเกมอย่างเดียวเลย ที่ผ่านมาก็มีสตรีมบ้าง แต่ว่าไม่ได้สตรีมช่องตัวเองนะคะ ไปสิงอยู่ช่องปอปอค่ะ ปอปอเค้าจะมีช่องยูทูบของตัวเอง ก็เลยชวนปอปอเล่น แล้วก็สตรีมด้วยกันในนั้น”

เพดเพด : “สนใจงานแสดงค่ะ เป็นอะไรที่อยากทำให้มันจริงจังกว่านี้ อยากลองเล่นซีรีส์ดู ที่เป็นตัวหลัก เคยเล่น แต่ว่าเป็นตัวรอง ก็เลยอยากลองเป็นตัวหลักดู”

Q : Bucket list ของแต่ละคนในตอนนี้

เพดเพด : “ถ้าในพาร์ทไอดอล ก็อยากมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง รู้สึกว่าอยากมีเวทีที่เป็นของพวกเราเอง ธันเดอร์โดมก็ได้ อิมแพ็คมันใหญ่ไป 55”

ส้มส้ม : “ของส้มก็เรียกว่ามักน้อยก็ได้ มี 2 อย่างก็คือ ได้ไปแสดงที่ญี่ปุ่นค่ะ แล้วก็มี MV เป็นของตัวเอง ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ก็ได้ครบแล้ว ถ้าเป็น Bucket list ใหม่ ก็คืออยากจะมีผลงานต่อไปเรื่อย ๆ มี MV อีกหลาย ๆ เพลงเลยค่ะ”

เอลฟ์ฟี่ : “ที่หนูให้สัมภาษณ์ไปตอนแรก ๆ ก็คืออยากไปญี่ปุ่นใช่ไหมที่หนูบอก ก็ได้ไปแล้ว แต่หนูมองว่า ยังอยากไปอีกเรื่อย ๆ แต่อีกอย่างที่หนูอยากเห็นในชีวิตนี้นะ คือหนูอยากเห็น Euphonie อยู่บนป้ายใหญ่ ๆ อะ หรือแบบว่าอยู่ในรถไฟฟ้าก็ได้ ที่แบบว่ามีเปิดเพลงว่า Euphonie ออกซิงเกิลใหม่ อะไรอย่างเงี้ย อันนี้เป็นสิ่งที่หนูอยากเห็นที่สุด ณ ตอนนี้ ที่หนูยังมีโอกาสได้เป็นไอดอลค่ะ ส่วน Bucket list ในชีวิตอีกอย่างนึง ถ้าไม่ได้เป็นแบบไอดอล คือหนูอยากเติมเกมสักแสน โดยที่ไม่เดือดร้อนอะไรเลย คือหนูอยากรวย แล้วแบบตื่นมามีเงินสักแสนเติมเกมเข้าไปเลย ประมาณนี้”

ปอปอ : “ถ้าในเส้นทางของการเป็นไอดอล อยากมีออริจินอล Song ของตัวเอง เป็นเพลงโซโล่ค่ะ อยากให้เมมเบอร์ทุกคนมีโซโล่ของตัวเอง แบบนี่เพลงโซโล่ของเพดเพด นี่เพลงโซโล่ของปอปอ อยากมี MV ด้วย แต่ว่าถ้าเป็นส่วนตัว อยากอยู่บ้านเลี้ยงแมวเฉย ๆ แล้วก็มีเงินเข้าบัญชีสักเดือนละล้าน อะไรเงี้ย”

Q : เพลงโซโล่นี่เป็นแนวไหนครับ

ปอปอ : “ตามคาแรกเตอร์ของแต่ละคนเลยค่ะ ของหนูอยากได้เป็นเพลงช้า อาจจะขัดกับคาแรกเตอร์หนูที่เป็นคนดูกวน ๆ แต่จริง ๆ แล้วหนูอยากร้องเพลงช้า อยากเป็นสาวอกหัก ฟีลเพลง POP ธรรมดา”

แมรี่ : “ในฐานะของไอดอล ค่อนข้างจะทำมาเยอะแล้ว ยังเหลือคอนเสิร์ตเดี่ยว ยังไม่มี อยากขายบัตรให้ทุกคนเข้ามาดูเรา Lido Connect ก็ได้ค่ะ ของชีวิตส่วนตัวก็เหมือนคนทั่วไป อยากเป็นเศรษฐี เหมือนบูม Euphonie เวลาก่อนขึ้นเวที เราก็จะให้กำลังใจกัน แบบนี้ค่ะ ‘ใครอยากเป็นเศรษฐี Euphonie Euphonie’ ตะโกนกันข้างเวทีเลยค่ะ 55”

Q : มีนิสัยหรือความสามารถอะไรบ้างที่แฟนคลับยังไม่ทราบ

เพดเพด : “พูดของพี่เอลฟ์ก่อน เป็นความสามารถในการเล่นดนตรีค่ะ อาจจะมีคนรู้ แต่รู้เฉพาะแค่คนที่ตามพี่เอลฟ์จริง ๆ แฟนคลับที่ตาม Euphonie หลาย ๆ คนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พี่เอลฟ์เล่นดนตรีได้ เล่นคีย์บอร์ด เล่นอิเล็กโทน ได้นะ”

Q : เล่นเก่งเลยใช่ไหม?

เพดเพด : “เก่งค่ะ เป็นเซียน”

เอลฟ์ฟี่ : “ตอนนี้หนูกำลังเรียนเพื่อสอบเป็นครูอยู่ด้วย อุ้ย.. ไม่เอา ไม่อวยเยอะ เดี๋ยวเค้าให้เล่น”

แมรี่ : “งั้นหนูขอพูดต่อนะคะ ความสามารถของพี่ปอ จริง ๆ พี่ปอเป็นคนที่มีความสามารถหลายอย่างเยอะมาก ทั้งเรื่องพากย์เสียง เค้าเป็นคนที่ใช้เสียงได้เก่ง แล้วก็คือถ้าเป็นแฟนคลับพี่ปอ ก็จะรู้ว่าพี่ปอวาดรูปเก่ง ทำพวกงานตัดต่อได้สนุก”

ส้มส้ม : “พี่ส้มพูดถึงเพดแล้วกัน ไม่แน่ใจว่าคนอื่นจะเห็นเหมือนเราไหม คือสิ่งหนึ่งที่ส้มทักไปปรึกษาเพดบ่อยมาก ๆ คือเรื่องเกี่ยวกับการขายของ เพดเป็นคนมาร์เก็ตติ้งดี ขายเก่ง คิดสินค้าเก่ง เพราะว่าพวกเราไอดอลอะค่ะ เวลาเราถึงเดือนเกิดวันเกิดเรา เราก็จะมีสินค้าประจำตัวมาขาย ซึ่งส้มก็คิดหลายอย่างเลยว่า จะขายอะไรดีนะ ทักหาเพด สิ่งที่เราเครียดมาเป็นเดือนได้คำตอบเลย”

ปอปอ : “ปอปอ พูดถึงพี่ส้มค่ะ พี่ส้มเค้าดูเป็นผู้ใหญ่ แต่จริง ๆ แล้วอะ พี่ส้มเค้ามีความตะมุตะมิ มีความเป็นเด็กน้อยของเขาอยู่ในนั้นอะ แล้วเค้าเป็นคนเส้นตื้น ในจังหวะที่เราเล่นมุกไปแล้วกลัวคนไม่ขำ เล่นกับพี่ส้มก่อน เดี๋ยวเค้าจะขำให้เราก่อนเลย อะไรอย่างเงี้ย ขำนำ แต่บางทีเค้าก็จะมีความรีโหลดนิดนึง ขอคิดก่อน เอ๊ะ.. รึเปล่า บางทีตามทันหรือบางทีตามไม่ทัน มีความโก๊ะ ๆ ของเค้าอยู่ในนั้น”

Q : อันนี้แฟนคลับไม่รู้เหรอ

ปอปอ : “ไม่รู้ เพราะส่วนใหญ่แฟนคลับเค้าจะคิดว่าพี่ส้มแบบนิ่ง ๆ”

ส้มส้ม : “แฟนคลับจะค่อนข้างเกรงใจส้ม เค้าจะค่อนข้างกลัว แต่จริง ๆ แล้วเราเป็นคนขำง่าย”

เอลฟ์ฟี่ : “ของพี่เอลฟ์ จะขายแมรี่เรื่องนี้แล้วกัน ปกติเวลาอยู่หน้างาน แมรี่เค้าจะค่อนข้างดุ หนูจะกลับบ้านพร้อมกับแมรี่บ่อย เค้าก็จะจับมือ เค้าเป็นคนที่ค่อนข้างสกินชิพ เทคแคร์ดูแล แล้วก็อยู่ห่างกันไม่ได้เลย แต่กับแฟนคลับเค้าจะวางตัว แต่กับเพื่อนเค้าจะเป็นตัวเองมาก เค้าจะเป็นคนนุ่มนิ่ม ไม่เหมือนกับที่แฟนคลับเห็น เสียใจด้วยนะคะ พอดีว่าหนู VIP” (ขำลั่นกันทั้งวง)

ปอปอ : “เสริมของแมรี่นิดนึง ภายนอกเค้าอาจจะดูเป็นคนดุ แต่ว่าในความดุของเค้า จริง ๆ เค้าเป็นห่วง แล้วเค้าตักเตือนในแบบของเค้า เฮ้ย.. ทำแบบนี้มันไม่ดีนะ เรื่องอย่างงี้เราเคยผ่านมาก่อน เพราะว่าเค้าเป็นไอดอลมานานกว่าพวกหนู เฮ้ย.. เรื่องยังงี้มันจะเกิดเอฟเฟกต์ยังงี้กลับมานะ เค้าก็จะเตือน แต่เค้าจะเตือนในลักษณะของเค้า”

ส้มส้ม : “ขอเสริมเรื่องแมรี่นิดนึง จริง ๆ แล้ว แมรี่ เก่งภาษาญี่ปุ่นค่ะ คนส่วนใหญ่จะค่อนข้างไม่รู้กัน เพราะว่าเราอยู่ที่ไทย แมรี่ก็จะมีแฟนคลับญี่ปุ่นมาบ้าง แต่ว่าตอนที่เราไปญี่ปุ่นกันอะค่ะ บอกเลยว่า ชีวิตที่ญี่ปุ่นง่ายขึ้น เพราะว่ามีแมรี่คอยช่วยค่ะ”

Q : แมรี่สอบญี่ปุ่นถึงระดับไหน

แมรี่ : “ที่สอบล่าสุด ตอนยังเรียนอยู่ อันนั้นคือ N3 แต่ตอนนี้น่าจะสอบระดับ N2 ได้ แต่ยังไม่ได้ลองสอบดู พูดมั่นใจไปงั้นแหละ อาจจะทำไม่ได้ 55”

Q : เวลาที่แฟนคลับกำลังท้อ อยู่ในช่วงที่ยากลำบาก พวกเราอยากส่งพลังหรือพูดให้กำลังใจพวกเขายังไง?

เพดเพด : “มันปัจเจกเนอะ เพราะว่าเรา 5 คนก็ 5 สไตล์ การฮีลลิ่งแฟนคลับก็ไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นเพดจะเป็นฝ่ายรับฟังมากกว่า คนที่เข้ามาหาหรือมาพูดคุย แล้วมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง เราก็เป็นผู้ฟังที่ดีให้เขาสบายใจว่า เออยังมีคนที่คอยรับฟังอยู่ คอยซัพพอร์ตเขา”

เอลฟ์ฟี่ : “ส่วนใหญ่เราจะทักว่า วันนี้เธอเป็นยังไงบ้าง เล่าให้เราฟังได้นะ”

แมรี่ : “แต่ถ้าเขาเข้ามา แล้วบอกว่าไม่สบายใจ แต่ไม่ยอมพูด แมรี่ก็จะดุว่า ถ้าเธอไม่พูด แล้วเราจะรู้ได้ยังไง”

ส้มส้ม : “ถ้าเขามาในเรื่องไม่สบายใจ แต่เขาไม่ยอมบอกว่าไม่สบายใจเรื่องอะไร เขาแค่บอกว่าช่วงนี้รู้สึกไม่ดี เราก็จะปลอบประมาณว่า เออ.. ไม่ว่าเธอจะเจอเรื่องอะไรอยู่ เป็นกำลังใจให้นะ ขอให้มันผ่านไปได้ด้วยดี แล้วปกติเราจะเจอกันแค่ในงานใช่ไหมคะ เขาก็อาจจะคุยกับเราได้แค่ในงาน ผมก็เลยบอกว่า ถ้ามีอัปเดตอะไรหรือมีอะไรอยากเล่าอยากระบายให้ฟัง สามารถ DM มาได้นะ คอยอ่านอยู่ ถึงแม้เราจะไม่สามารถตอบได้ แต่เราก็ยังรับรู้สิ่งที่เขาอยากจะสื่อกับเราได้”

ปอปอ : “อย่างที่น้องเพดบอกไปเมื่อกี้ ทุกคนมีสไตล์การฮีลลิ่งของแต่ละคนไม่เหมือนกันใช่ไหม อย่างของหนูเนี่ย ส่วนมากหนูไม่ค่อยเจอค่ะ ที่เข้ามาบอกว่าไม่สบายใจ ส่วนมากจะเข้ามาคุยเล่นกับหนูเลย หนูก็เล่นกับเขาไปเลย แต่ถ้ามีคนที่หนูจับพลังงานได้ว่า เออ.. เขามีเรื่องไม่สบายใจ เราก็จะถามว่า เธอมีเรื่องอะไรรึเปล่าช่วงนี้ ถ้าเขาบอกว่ามีเรื่องนิดหน่อย เราก็จะถามว่าเล่าได้ฟังได้ไหม ถ้าเล่าก็จะฟัง แล้วให้คำแนะนำไปนะตอนนั้น แต่ถ้ามันเป็นเรื่องที่เล่าให้ฟังไม่ได้ เราก็จะให้เป็นคำปลอบใจแทน”

Q : ไอดอลในดวงใจของแต่ละคนคือใคร?

ส้มส้ม : “ชอบ ไอซ์ Siamdream ค่ะ คนนี้คือคนที่ทำให้ส้มตัดสินใจเข้ามาเป็นไอดอลค่ะ เขาเป็นคนที่มีพลังงานความเป็นไอดอลในตัวสูงมาก ๆ ไม่ว่าจะเรื่องร้องหรือเรื่องเต้น ตอนที่ส้มเข้ามาอยู่ในค่ายนี้ ก็มีเรื่องไม่สบายใจ ไม่มั่นใจหลาย ๆ อย่างค่ะ ส้มก็จะถามไอซ์ว่า เวลาขึ้นเวที ทำยังไงถึงจะยิ้มได้ตลอด เวลาคุยกับแฟนคลับ เราจะคุยกับเค้ายังไงให้เค้าสนุกกับเรา ไอซ์ก็จะให้คำแนะนำได้ดีตลอดค่ะ”

เพดเพด : “จริง ๆ ไอดอลของหนูเป็นบอยแบนด์ EXO รู้สึกว่าเขาเป็นแรงบันดาลใจ และก็เป็นแรงผลักดันที่ทำให้เราตัดสินใจที่จะมาเป็นศิลปิน อยากจะมีสเตจเป็นของตัวเอง อยากจะมอบความสุขให้คนอื่นบ้าง อยากจะให้กำลังใจคนอื่นบ้าง เหมือนที่เราได้รับ”

เอลฟ์ฟี่ : “ของหนูจะชอบ 48 Group มาก่อน หนูชอบที่เป็นเวอร์ชั่นการ์ตูนมาก่อนด้วย แล้วพอมาที่ไทย หนูก็เลยลองออดิชั่นดู หนูชอบน้องมายด์”

ปอปอ : “ปอปอชอบ ฮาชิโมโตะ คันนะ ค่ะ ชอบคุณคะน้า เค้าเป็นไอดอลมาก่อนใช่ไหมค่ะ แล้วก็ผันตัวมาเป็นนักแสดงใช่ไหม เค้าเป็นคนสวย แต่ก็แสดงได้ทุกบทบาท เวลาแสดงเค้าไม่มีหวงสวยเลย แล้วหนูก็ชอบที่เค้าน่ารักค่ะ”

แมรี่ : “ที่ชอบนะคะ ก็จะเป็นยูนิต FLOWER ที่เป็นยูนิตย่อยของ E-girls ที่ชอบสุดก็จะเป็น ฟูจิอิ ชูกะ เค้าเต้นเก่งมาก สวย แล้วก็ทำงานสายโมเดลมาก่อนด้วย”

Q : สิ่งที่ภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ณ ตอนนี้

แมรี่ : “ภาคภูมิใจที่สุดตั้งแต่ตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แล้วก็ตอนเรียนจบ รู้สึกว่าตัวเองเก่งมาก ปีนั้นคนอื่นเค้าต้องยื่น GAT PAT กันเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย แต่ว่าหนูสอบโควตาติดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปเครียดเรื่อง GAT PAT พอเข้ามหาวิทยาลัย หนูก็เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย มันจะมีครั้งหนึ่งที่ไปทำงานที่ญี่ปุ่น แล้วกลับมาถึงเมืองไทยประมาณ 6 โมงเช้า กลับบ้านไป อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หนูก็ออกมาสอบต่อเลย ก็รู้สึกว่าตัวเองสู้ชีวิตมาก เก่งมากที่เรียนจบมาได้”

ปอปอ : “สิ่งที่หนูภาคภูมิใจในชีวิตนี้ น่าจะเป็นช่วงที่หนูสามารถพาตัวเองไปเคลียร์กับที่บ้านได้ค่ะ ก่อนหน้านี้ หนูจบพยาบาลมาค่ะ พอหนูเปลี่ยนสายมาทางนี้ ที่บ้านก็ไม่โอเคอะค่ะตอนแรก เขาไม่โอเค แล้วเหมือนเขาโกรธ เราก็ไม่กล้ากลับบ้าน เพราะว่าเราเข้ากรุงเทพฯมา เราก็มาเป็นพยาบาลก่อนมาเป็นไอดอลใช่ไหมคะ ทีนี้เราก็ไม่กล้ากลับบ้าน เพราะว่าที่บ้านโกรธ แล้วก็ไม่ได้คุยกันเลย หนูอยู่จังหวัดเชียงรายค่ะ เหมือนที่บ้านเขาก็ไม่ติดต่อเรา เราก็ไม่ติดต่อเค้าเหมือนกัน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่พอเราเป็นไอดอลแล้ว ที่บ้านเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าเป็นไอดอลมันดีกว่าพยาบาลตรงไหน แต่ว่าจริง ๆ แล้ว ใจหนูมันไม่ได้ชอบพยาบาลขนาดนั้น ทำงานได้นะ แต่ว่าก็ไม่สนุก พอมาอยู่ไอดอลแล้ว หนูรู้สึกว่ามันสนุกกว่าการเป็นพยาบาล หนูก็เลยชอบที่จะทำตรงนี้ แต่ว่าที่บ้านเขาไม่เข้าใจ แล้วเราก็เหมือนห่างการติดต่อกันไปเป็นปีเลย มันจะมีช่วงที่แบบว่าไม่ได้แหละ เหมือนเราก็อยากปรับความเข้าใจกับเขาเหมือนกัน เราก็เลยกลับบ้านค่ะ ช่วงนั้นกลัวมาก กลัวบ้านไปเลย พอเราตั้งใจที่จะกลับบ้าน แล้วไปคุยกับเค้า ไปปรับความเข้าใจกับเขาได้ ที่บ้านเขาก็แบบโอเค เราก็ไม่ได้รบกวนที่บ้านด้วย เหมือนเราเป็นไอดอล แต่เราก็ไม่ได้ขอเงินเขาด้วย โอเค เขาก็ยอม ๆ ให้ทำไปแล้วกัน สุดท้ายถ้าไม่ไหวก็กลับไปเป็นพยาบาลแล้วกัน ความสัมพันธ์ก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน”

เอลฟ์ฟี่ : “เรื่องที่ภูมิใจที่สุดในชีวิต ก็น่าจะเป็นเรื่องเล่นดนตรีเนี่ยแหละค่ะ คือจริง ๆ แล้วหนูมีความฝันกับเรื่องดนตรีเยอะมาก เริ่มแรกเลยหนูเป็นเด็กสมาธิสั้นมาก ๆ ครูบอกว่าให้นั่งอยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวรอครูกลับมา ครูหันหลังปุ๊บ หนูลุกเลย คือหนูเป็นคนอย่างงี้จริง ๆ สมาธิสั้นมาก ๆ อะค่ะ บังเอิญคุณแม่เค้าไปเจอใบปลิวที่บอกว่า ถ้าเรียนเครื่องดนตรีชนิดเนี่ย อิเล็กโทน จะทำให้หนูมีสมาธิที่ดีขึ้น คุณแม่ก็เลยจับไปเรียนเลย ตั้งแต่หนูอยู่สักประมาณ ป.1 แล้วบังเอิญว่า เครื่องดนตรีชนิดเนี่ยสมัยก่อนมันแพงมาก คือหนูไม่รู้ว่ามันแพงแค่ไหน แต่ตอนนั้นแม่หนูซื้อมาแสนหนึ่ง ตอนที่หนู 8 ขวบอะค่ะ ตอนแรกหนูก็ยังไม่ตั้งใจเรียนค่ะ แต่บังเอิญหนูหูดีได้ยินป้าข้างบ้านว่าแม่หนูว่า โอ้ย.. ซื้อเครื่องดนตรีให้ลูกเป็นแสน เชื่อเถอะ.. ลูกไม่เล่นหรอก เนี่ย.. เอาตังไปทิ้ง แต่แม่หนูก็พูดกลับไปว่า เขาเชื่อมั่นในตัวหนู ตั้งแต่นั้นมาหนูตั้งใจเรียนมาก ๆ คือเรียนไปสักพัก ครูเค้าบอกว่าเด็กมีความสามารถนะ อยากให้พาไปเรียนสถาบันดนตรีไปเลย แม่ก็เลยย้ายหนูไปเรียนที่สถาบัน ๆ หนึ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง แล้วเค้าก็ส่งให้หนูเรียนจบเกรดที่มันเข้าขั้นเกรดครูอะค่ะ ตอนที่หนูยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ ตอนนี้หนูก็เลยกลับไปเรียนเพื่อที่จะได้เป็นคุณครูตามที่แม่อยากให้เป็น ก็เป็นอีกเรื่องที่ภูมิใจมาก ๆ แม่หนูก็พูดเสมอว่า มันไม่ได้มีใครเป็นตรงนี้ง่าย ๆ นะ มันต้องอดทนมาก ๆ จริง ๆ Euphonie ก็ซ้อมเยอะนะคะ หนูก็ต้องแบ่งเวลาไปซ้อมดนตรีด้วย ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ แต่ก็ขอบคุณที่ป้าข้างบ้านด่าแม่หนูค่ะ ต้องยกความดีความชอบให้ป้าข้างบ้านค่ะ”

ส้มส้ม : “ภูมิใจที่ตัวเองกล้าตัดสินใจใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองอยากเป็นนะคะ ส้มก็เกิดมาจากครอบครัวปกติทั่วไป คือให้เรียน เรียนจบแล้วก็ทำงาน ทำงานจนเกษียณอะไรแบบเนี่ยค่ะ ก่อนหน้านี้ส้มก็ทำงานประจำ ซึ่งงานค่อนข้างหนัก เดินทางไกลมาก ใช้เวลาขับรถประมาณวันละ 5-6 ชั่วโมง สุขภาพก็ไม่ค่อยดี ผมร่วงนู่นนี่นั่น มีปัญหาค่อนข้างเยอะ แล้วถึงจุดนึง เราก็รู้สึกว่านี่ไม่ใช่ชีวิตที่เราอยากเป็น มันค่อนข้างเป็นการตัดสินใจที่ยากค่ะ แต่เราก็ตัดสินใจออกจากงานมา แล้วก็มาใช้ชีวิตเป็นอิสระมากขึ้น ทำงานที่เราสามารถเลือกเวลาของเราได้มากขึ้นค่ะ ทุกวันนี้คุณแม่ก็ยังถามอยู่ว่าเมื่อไหร่จะกลับไปทำงาน แต่เราอยากหาทางอยู่รอดได้ โดยที่เราไม่ต้องกลับไปทำงานเป็นเวลา ก็ภูมิใจที่ตัวเองออกจากงานมาได้ประมาณน่าจะ 2 ปีแล้ว แต่ก็ยังสามารถอยู่ได้ค่ะ”

เพดเพด : “จริง ๆ น้องเพดก็เห็นด้วยกับพี่ส้มเหมือนกัน แต่เรื่องที่ภูมิใจอีกเรื่องก็น่าจะเป็นเรื่องเรียนได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เป็นสิ่งที่ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่แรก เราก็ทำมาได้จนสำเร็จ เป็นคำขอของแม่ก่อนที่เขาจะเสียด้วย คุณแม่เสียตอนที่หนูสอบไฟนอลปี 3 พอดี เราก็เลยทำให้เค้า เราก็รู้สึกภูมิใจว่าลากตัวเองมาได้”

Q : ใครที่ทำอาหารเก่งที่สุดในวง?

เพดเพด+เอลฟ์ฟี่ : “พี่ส้ม”

ส้มส้ม : “ถ้าทำพวกอาหารไทย พวกทอดไข่ อะไรอย่างเงี้ยไม่ได้ แต่ถ้าทำเบเกอรี่ ขนมเค้ก ทำได้ค่ะ”

Q : แล้วใครที่เป็นเหมือนคุณแม่ของวง?

เพดเพด : “เราเป็นเหมือนโรงเรียนหญิงล้วน”

ส้มส้ม : “ดูแลกันเองในแต่ละวัน”

แมรี่ : “ใครถนัดตรงไหนก็ช่วยเพื่อนดูแล”

เพดเพด : “เติมเต็มกันในส่วนที่เพื่อนไม่มี”

Q : ใครที่เป็นคนทำให้บรรยากาศวงมีความสนุกสนาน?

เพดเพด : “ต้องเป็นพี่เอลฟ์ ยืนเฉย ๆ ก็ตลกแล้ว”

เอลฟ์ฟี่ : “หนูอะ ตอนนั้นไปญี่ปุ่นใช่มั้ยค่ะ แล้วเรามีสัมภาษณ์ แมรี่บอกว่าหนูเป็นคนสวยที่แปลก ๆ อยู่เฉย ๆ กันก็ทำหน้าแบบแปลก ๆ”

แมรี่ : “แล้วคนที่เห็นก็คือพี่ส้ม”

ส้มส้ม : “คือเวลาเราซ้อมเต้น เราก็จะซ้อมในห้องหน้ากระจกใช่ไหมคะ แล้วเวลาเต้น ๆ อยู่ แพนตาไปเจอเอลฟ์พอดี ส้มเต้นหลุด แล้วก็ขำทุกครั้งเลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเอลฟ์ต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย”

แมรี่ : “เค้าน่าจะทำจนชิน”

เอลฟ์ฟี่ : “หนูรู้สึกว่ามันคือปกติของหนู แต่มันไม่ปกติของเพื่อน

ส้มส้ม : “เวลาคนอื่นเต้นผิดอะ ก็จะทำแค่หน้าเหวอ ๆ แต่เอลฟ์เวลาเต้นผิด คือหน้าแบบเหวอ… หน้าเพื่อนออกประมาณ 10% ของเอฟล์คือออก 200 หน้าตาเค้าเล่นใหญ่”

Q : เสน่ห์ในตัวของเพื่อนที่เราอยากได้มาเป็นของตัวเอง?

ส้มส้ม : “อยากได้ของน้องเพดค่ะ เพราะว่าส้มเป็นคนคุยไม่เก่ง เจ๊าะแจ๊ะไม่ได้ ถ้าต้องมานั่งกับใครสองต่อสอง ก็จะรู้สึกกดดัน เราชวนเค้าคุยไม่ถูก แต่น้องเพชรคือแฟนคลับสามารถมาตัวเปล่า ยืนฟังน้องเพดพูดอย่างเดียวได้เลย เพราะว่าตอนที่ไปญี่ปุ่น ส้มเป็นรูมเมทกับเพดค่ะ ก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลยค่ะ น้องเพดพูดคนเดียวตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอนเลยคะ”

แมรี่ : “แมรี่นอนอยู่ข้างห้องส้ม-เพดค่ะ ตีสามหนูจะนอนแล้ว เค้ายังไม่เงียบเสียงเลย หนูต้องไลน์ไปถามเพดกับพี่ส้มว่า คุยอะไรกัน เสียงดังมาก”

เพดเพด : “ไม่หรอก ก็พูดไปเรื่อยคนเดียว แต่จริง ๆ เวลาเจอคนมันก็เกร็งบ้าง”

ปอปอ : “อยากได้ของน้องเพดค่ะ น้องเพดจะมีสกิลการอ้อนกับการขายที่ดี คือหนูไม่ได้แบบอ้อนขนาดนั้น แต่น้องเพดมีความลูกอ้อน ขายของเก่ง ซึ่งสกิล 2 อย่างนี้ หนูแบบไม่เก่งเลย ติดลบอะ อย่างขายของหนูก็จะไม่กล้าขาย หนูเป็นแนวแหย่มากกว่า”

เอลฟ์ฟี่ : “พี่เอลฟ์อยากได้ของพี่ส้มแล้วกัน อยากได้อย่างหนึ่ง คือจริง ๆ อะพี่ส้มเขาเป็นคนนิ่ง ๆ ใช่ไหมคะ เอลฟ์อยากเงียบสัก 5 นาที แล้วเอลฟ์ค่อนข้างเป็นคนเครียด กลับบ้านก็จะเครียด ถึงเอลฟ์จะเป็นคนยิ้มแย้ม แต่เป็นคนคิดมาก โอ๊ยวันนี้ฉันทำพลาดอะไร ก็จะเอากลับไปคิดมากอะค่ะ แต่ว่าพี่ส้มเค้าเป็นคนปล่อยจอย ปล่อยวาง ปลง พี่เอลฟ์ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าพี่เอลฟ์ได้ตรงนี้ของพี่ส้มมาสักครึ่งหนึ่ง ชีวิตคงจะชิลกว่านี้ คือบางทีเราก็อยากอยู่เงียบ ๆ บ้าง”

แมรี่ : “อยากได้สกิลเล่นดนตรีของเอลฟ์ รู้สึกว่าเป็นอะไรที่พิเศษ เป็นอะไรที่แบบสวยอะ เคยเห็นเขาถ่ายคลิปเล่นอยู่ ก็รู้สึกว่าปกตินิดนึง (ปกติคือเอลฟ์ดูไม่ปกติว่างั้น 55) แล้วดูเป็นคนสวย สวยแค่ตอนนั้นอะค่ะ”

เพดเพด : “น้องเพดอยากได้ของสกิลตกแฟนคลับของพี่ปอ คือพี่ปอทรีตคนได้ดี ดูแลแฟนคลับได้ดี จนมีกลุ่มก้อนพันธมิตรอยู่ ก็รู้สึกว่าถ้าทำได้ก็น่าจะดี อะไรแบบนี้”

Q : Euphonie สำหรับทุกคนในตอนนี้ มีความหมายยังไงบ้าง?

เอลฟ์ฟี่ : “Euphonie แทบจะเป็นครึ่งชีวิตของเอลฟ์ไปแล้ว ณ ตอนนี้ ทุกวันนี้ยังตอบคำถามพ่อแม่ไม่ได้คะว่า ถ้าเลิกแล้ว จะไปทำอะไร นี่คือเส้นทางที่หนูเลือกด้วยตัวเอง แล้วรู้สึกว่าหนูชอบที่สุด มีคนมาถามหนูว่า ถ้าไม่ได้ทำไอดอลแล้วเป็นอะไร คือไม่อยากถามหนูบ้างเหรอว่า หนูอยากเป็นไอดอลไปตลอดชีวิตหรือเปล่า หนูชอบร้อง ชอบเต้น แล้วก็รู้สึกว่าตรงเนี้ยมันคือชีวิตที่หนูเลือกเอง แล้วหนูก็ชอบมันมาก ๆ อะค่ะ ก็เลยรู้สึกว่าเราก็ผูกพันกับมันเหมือนกันนะเนี่ย”

ปอปอ : “หนูว่าก็เทียบเท่ากับการเรียนมหาวิทยาลัย อยู่ Euphonie มา 3 ปี อีกนิดนึงก็จะจบมหาวิทยาลัยแหละ มหาวิทยาลัยเรียน 4 ปีใช่ไหมคะ มันเหมือนเป็นพาร์ทหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว เรามาอยู่ตรงนี้นานเหมือนกันนะ ทำพยาบาลแค่ 6 เดือนเองคะ แต่ว่าหนูมาอยู่ตรงนี้ 3 ปีแล้ว ก็ยังไม่ได้คิดที่จะจบการศึกษาในเร็ว ๆ นี้ ถ้ายังมีแรงไหว ก็จะทำต่อไปเรื่อย ๆ”

ส้มส้ม : “สำหรับส้ม Euphonie คือกลุ่มบุคคลที่มีบทบาทต่อชีวิตเรามากที่สุดในตอนนี้ เพราะว่าช่วงชีวิตหลังจากเป็นไอดอล ส้มแทบไม่ได้เจอใครอื่นเลย นอกจาก Euphonie ค่ะ ได้เจอเยอะกว่าเพื่อนสนิทตัวเองด้วยซ้ำ เหมือนเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเลยค่ะ”

แมรี่ : “สำหรับแมรี่ ก็อย่างที่พี่ปอพูดไป เราก็อยู่กันมา 3 ปี ของแมรี่เหมือนเรียนมหาวิทยาลัย แล้วต่อปริญญาโทแล้ว นั่นแหละเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ทั้งอยู่ Euphonie ทั้งการเป็นไอดอล ยังไม่ได้คิดเรื่องที่หลังจากนี้จะทำอะไร รู้สึกว่าอยากอยู่ตรงนี้ต่อไปเรื่อย ๆ”

เพดเพด : “สำหรับหนูส่วนตัวรู้สึกว่ามันเป็นก้าวที่สำคัญในชีวิต มันเป็นกล่องความสำเร็จที่เราตั้งใจไว้ว่า ถ้าจะทำไอดอล อยากทำให้ได้ถึงเท่านี้ แล้วพอมาถึงจุดที่เราไปได้จริง ๆ ทำได้จริง ๆ ได้ขึ้นงานใหญ่ที่คิดไว้ ก็รู้สึกว่ามันเป็นก้าวสำคัญของเรา”

Q : สาว ๆ Euphonie พูดถึงแฟนคลับหน่อย

ส้มส้ม : “สำหรับพี่ต้นนะคะ ก่อนหน้านี้ก่อนจะมาเป็นไอดอล เราคิดว่าเราคือคนที่ต้องไปเอนเตอร์เทนแฟนคลับ คือคนที่ต้องทำให้แฟนคลับมีความสุข มีกำลังใจ แต่พอมาเป็นไอดอลจริง ๆ บอกเลยว่าแฟนคลับนี่แหละที่ทำให้เรามีความสุข ทำให้เราหัวเราะและยิ้มได้ เพราะว่าในแต่ละงาน เขาก็จะเตรียมโน้นเตรียมนี้มาให้เราเล่น มาให้เราขำกันได้ตลอดค่ะ”

เพดเพด : “รู้สึกว่ามันเป็นการแลกเปลี่ยนพลังงาน เขาได้รับพลังงานจากเรา เราก็ได้รับพลังงานจากเขา มันเป็นความทรงจำช่วงนึงที่มีค่า และมีความหมายกับพวกเรา”

ปอปอ : “เหมือนเค้าเป็นแรงหนุนหลังให้เรา หนูคงมาไม่ถึงวันนี้ ถ้าไม่มีแฟนคลับคอยเป็นกำลังใจ คอยหนุนหลัง คอยซัพพอร์ต หนูอาจจะเลิกเป็นไอดอลตั้งแต่ตอนที่ติดโควิดไปแล้วก็ได้ ณ ตอนนี้หนูรู้สึกขอบคุณ รู้สึกดีใจ ต่อให้บางคนเขาอยู่ไกล ไม่ว่างมาเจอเราเลย แต่เขาก็ยังส่งกำลังใจ DM ส่งขนม หรือว่าคอยส่งพลังบวกมาให้เรา เป็นแรงหนุนให้เราเสมอ ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าเกิดวันไหนที่เราล้ม เราก็ยังจะมีเขาที่คอยหนุน คอยอุ้ม คอยดึงพวกเราขึ้นมาอยู่ ก็รู้สึกขอบคุณนะคะ ที่ซัพพอร์ตพวกเรามาจนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณค่ะ”

เอลฟ์ฟี่ : “สำหรับพี่เอลฟ์ก็รู้สึกว่า แฟนคลับเหมือนเพื่อน เหมือนพี่น้องเลยค่ะ เพราะว่าพี่เอลฟ์คาแรกเตอร์เป็นฟีลเหมือนคุยกับเพื่อนอะไรอย่างเงี้ย ก็เลยรู้สึกว่า พอเรามาอยู่ตรงนี้เหมือนเราได้เพื่อนคนสำคัญมาเพิ่มในชีวิต ขอบคุณมาก ๆ ที่ยังอยู่กันจนทุกวันนี้นะคะ อยู่ให้บ่น อยู่ให้คุย ที่จริงเหมือนคำถามก่อนหน้านี้ ที่บอกว่าเวลาแฟนคลับมาขอกำลังใจจากเรา จริง ๆ แฟนคลับก็เป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตของเรา ชีวิตหนูบางทีไม่ไหวแล้ว หนูเรียนหนักจังเลย โน้นนี่นั่นจังเลย แฟนคลับก็จะให้กำลังใจว่า เฮ้ย.. เธอทำได้ เธอเก่ง ถ้าแฟนคลับที่สนิทกับหนู ก็จะรู้ว่าหนูไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไหร่ จะเป็นฟีลแบบว่า เออ.. หนูไม่น่ารักรึเปล่า ไม่สวยรึเปล่าอย่างเงี้ยค่ะ เขาก็จะบอกว่า ไม่ แกดีที่สุด แกเลิศ ก็ขอบคุณมาก ๆ ที่ยังเชื่อหนูจนถึงทุกวันนี้นะคะ”

แมรี่ : “อยากจะขอบคุณแฟนคลับที่เพิ่งเข้ามาสนใจหนู เพราะหนูจะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดจาเอาแต่ใจ มีคนที่คอยติดตามมาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ก็ค่อนข้างเยอะ อย่างหนูมีแฟนคลับที่อยู่ไกล ๆ อยู่ต่างจังหวัด อยู่ต่างประเทศค่อนข้างเยอะด้วย ทั้งที่ไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ เขาก็ยังคอยสนับสนุนอยู่ตลอด ก็รู้สึกขอบคุณมาก ๆ”

Q : สุดท้ายให้ Euphonie ฝากผลงานหน่อย

เพดเพด : “ฝากผลงานซิงเกิลล่าสุดของพวกเรา Euphonie ชื่อเพลงว่า Nano ส่งไปถึงเธอ นะคะ สามารถฟังได้ทุกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง และชม MV ได้ทาง Youtube ช่อง Siamdol ฝากไปกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม ฝากด้วยนะคะ สำหรับใครที่อยากจะติดตามพวกเราต่อนะคะ ก็มาติดตามพวกเราได้ทั้ง Youtube Facebook Instagram X TikTok นะคะ เสิร์ช .Euphonie ก็จะขึ้นชื่อทุกคนเลยค่ะ”

ชมภาพสวย ๆ ของ 5 สาว Euphonie

ติดตามสาว ๆ Euphonie ได้ที่

แมรี่
https://www.facebook.com/Mary.Euphonie
https://www.instagram.com/rosemary.euphonie/
https://twitter.com/Mary_Euphonie

ปอปอ
https://www.facebook.com/Porpor.Euphonie
https://www.instagram.com/porpor.euphonie
https://twitter.com/Porpor_Euphonie
https://www.tiktok.com/@porpor_euphonie
https://www.youtube.com/@porwarin

เอลฟ์ฟี่
https://www.facebook.com/Elffy.Euphonie
https://www.instagram.com/elffy.euphonie/
https://twitter.com/Elffy_Euphonie

ส้มส้ม
https://www.facebook.com/Somsom.Euphonie
https://www.instagram.com/somsom.euphonie

เพดเพด
https://www.facebook.com/petpet.euphonie
https://www.instagram.com/petpet.euphonie
https://twitter.com/petpet_euphonie
https://www.tiktok.com/@petpet.euphonie