เมื่อวันที่ 12 ก.พ. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ดำเนินการโครงการ “Take care ดูแลใจ มอบความรักเติมเต็มความสุข” 14 โครงการแห่งความรัก บวก 1 แนวทางเติมเต็มความสุขให้กับครูและนักเรียน เนื่องในเทศกาลวาเลนไทน์ในเดือนแห่งความรัก ก.พ.นี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางใจให้กับนักเรียน นักศึกษาและพัฒนาคุณภาพของครูและบุคลากร ให้สามารถส่งเสริม สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือผู้เรียนให้มีการเรียนรู้ที่สมวัยด้วยการเรียนรู้อย่างมีความสุข

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการ “Take care ดูแลใจ มอบความรักเติมเต็มความสุข” 14 โครงการนั้น ประกอบด้วย  1. Online Up Skill โดยการติวให้กับนักเรียนที่จะสอบเข้าศึกษาต่อ ในระดับ ม.1 และม.4 พร้อมอบรมเพิ่มทักษะสำหรับครูในช่วงปิดภาคเรียน 2.ลด(ภา)ระ เลิก โครงการที่ซ้ำซ้อน ปรับรูปแบบให้ทันสมัย 3.พัฒนาสุขภาวะกายและใจ เพิ่มมิติด้านความปลอดภัยในสถานศึกษา และธรรมนูญสุขภาพในโรงเรียน 4. MOE Content Creator Award 2024 ด้วยการสร้างและพัฒนา Content เพื่อการสื่อสารด้านสุขภาพกายและจิตของนักเรียน นักศึกษา ครูในหัวข้อเด็กไทยฐานใจดี หัวข้อพลังความดีสร้างชาติ และหัวข้อ Coaching ปิ๊งอาชีพ ชิงเงินรางวัลกว่า 450,000 บาท 5.สุขภาพจิตดีเริ่มที่เรา “Hello Good Day” จัดทำรูปแบบการสื่อสารสุขภาพจิตในโรงเรียนเชิงบวกด้วยการสวัสดีตอนเช้า และจัดทำ LINE STICKER “MOE Happy” เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการสร้างความตระหนักการมีส่วนร่วมและการดูแลสุขภาพจิตนักเรียนร่วมกัน

ส่วน 6. Guidance Teacher Skill Up  พัฒนาครูแนะแนวในทุกสังกัดให้สามารถเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ ดูแลช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา และพัฒนาศักยภาพพร้อมดูแลสุขภาพจิตผู้เรียน 7.พัฒนาความเข้มแข็งเครือข่ายนักจิตวิทยาโรงเรียน เพิ่มทักษะการฟัง การให้คำปรึกษา และทักษะของนักจิตวิทยาคลินิกที่จำเป็นต้องใช้ในสถานศึกษา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสร้างเครือข่ายในระดับภูมิภาค 8. MOE Consulting Platform สร้างแพลตฟอร์มให้คุณครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน ได้ขอรับการปรึกษาและการดูแลสุขภาพจิต จากจิตแพทย์และนักจิตวิทยาในรูปแบบ Face to Face บนระบบ Online 9.ใส่ใจสุขภาพจิตนักเรียนด้วย Platform School Health HERO ต่อยอดขยายผลการดูแลสุขภาพจิตนักเรียนวิถีใหม่ให้ครอบคลุมทุกสังกัด 10. Bully Free zone สร้างกลไกป้องกันการ Bully ในสถานศึกษา ที่ครอบคลุมทั้งระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับต้นสังกัด 11.จัดตั้งหน่วยบริการแนะแนวให้การปรึกษาทางการศึกษา อาชีพ คุณภาพชีวิต และบริการตรวจสุขภาพใจอย่างครบครัน ครอบคลุม 928 แห่งทั่วประเทศ 12.ส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยด้วย 3 เร่ง เร่งกำหนดการฟื้นฟูเด็กปฐมวัยเป็นวาระแห่งชาติ เร่งให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแลเด็ก และสังคม เร่งค้นหา เยียวยา และพัฒนาเด็กในภาวะเปราะบาง  3 ลด ลดการใช้สื่อหน้าจอในเด็กปฐมวัยอย่างจริงจัง  ลดความเครียดคืนความสุขแก่เด็ก  ลดการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก 3 เพิ่ม เพิ่มกิจกรรมฟื้นฟูพัฒนาการที่เสียไป  เพิ่มสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า เพิ่มศักยภาพบุคลากรและระบบนิเวศใกล้ตัวเด็ก  13.สถานศึกษาปลอดภัย 1 วิทยาลัย 1 ครูอนามัย มีกลไกการดูแล ช่วยเหลือ และส่งต่อด้านสุขภาพกายและจิตในสถานศึกษา  และ 14.พัฒนากระบวนทัศน์ทักษะ อารมณ์สังคมในผู้เรียน ให้รู้ตน รู้คน รู้สังคม รู้คิดบวก มีทักษะทางสังคมและอารมณ์ในศตวรรษที่ 21 ตลอดจนอีก 1 แนวทางสนับสนุนกิจกรรม 3 ด้าน ทั้งศิลปะ ดนตรี กีฬา

นอกจากนี้ ศธ. ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน ดูแล และให้ความช่วยเหลือทางด้านสุขภาพกายและจิตของนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากร ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่เริ่มจากความสุข ทั้งผู้เรียน ผู้สอน และผู้ปกครอง จะส่งผลให้ผู้เรียนมีทักษะที่สมบูรณ์ ทั้งด้านวิชาการ วิชาชีพ และทักษะชีวิต โดยมีครูคอยเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ ดูแลช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา ค้นหาและพัฒนาศักยภาพผู้เรียนให้สามารถบรรลุความสำเร็จในด้านต่าง ๆ ด้วยความสุข ความเข้าใจตนเอง พร้อมสุขภาพกายและจิตที่สมบูรณ์ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขในสังคม