สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ว่า ข้อมูลอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว 1.9% เมื่อปี 2566 โดยหดตัว 0.1% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว หรือระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค. ที่ผ่านมา ไม่เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งต้องการให้มีอัตราขยายตัว 0.2% ในข่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2566
ขณะที่เงินเยนอ่อนค่ามากกว่า 18% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างปี 2565-2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการอ่อนค่าประมาณ 7% เฉพาะเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ
แม้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่เป็นตัวเงิน (Nominal GDP) ของญี่ปุ่น ยังคงมีมูลค่าสูงราว 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 151.59 ล้านล้านบาท) แต่กลับกลายเป็นว่า น้อยกว่าสถิติซึ่งรัฐบาลเยอรมนีเปิดเผยเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ว่ามูลค่า Nominal GDP ของประเทศ อยู่ที่ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 162.31 ล้านล้านบาท) เมื่อปีที่แล้ว
สถิติดังกล่าวหมายความว่า เยอรมนีแซงญี่ปุ่น สู่การเป็นประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสามของโลก อนึ่ง เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศพึ่งพิงการส่งออกเป็นหลัก และต่างได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันไป จากสถานการณ์สงครามในยูเครน
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของเยอรมนีจะยังคงได้รับแรงเสียดทานอย่างหนัก จากการที่ธนาคารกลางยุโรปยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แผนงบประมาณในประเทศซึ่งยังไม่มีเสถียรภาพ และการขาดแคลนแรงงานมีทักษะสูง ซึ่งปัญหานี้คล้ายคลึงกับญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของญี่ปุ่นรุนแรงกว่า เนื่องจากอัตราการเกิดของประชากรอยู่ในระดับต่ำมาก.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES