จากกรณี ยายมิตร์ เกรียมมะเริง อายุ 84 ปี ย่าทวดเลี้ยงเหลนสาววัย 3 ขวบเพียงลำพัง อยู่บ้านเลขที่ 301 ซอยเดชอุดม 22  ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เดือดร้อนหนักเนื่องจากโฉนดที่ดินบ้านที่อาศัยอยู่ถูกหลานแอบเอาไปจำนอง และขาดส่ง โชคดีที่นายทุนยืดเวลาให้ซื้อคืนจนถึงสิ้นปีนี้

ต่อมา นางสาคร ลาภวิบูลย์สุข อายุ 54 ปี กู้ภัยฮุก 31 หัวหน้าจุดย่อยข้าง​ สภ.โพธิ์กลาง ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมเปิดบัญชีรับบริจาค ก่อนที่จะมีการนำเสนอข่าว จากนั้นพบว่ามีผู้ใจบนโอนเงินมาให้จำนวนมากจนได้เงิน รวมจำนวน 937,765.40 บาท ซึ่งเกินเป้าที่ตั้งไว้คือ จึงพายายมิตร์ ไปปิดบัญชีดังกล่าวเพื่องดรับบริจาค ในวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมทำการเปิดบัญชีใหม่เตรียมนำเงินไปซื้อบ้านคืน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ดร.ปาณิสรา จันทรัตน์ นักพัฒนาชุมชน กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครนครราชสีมา พร้อมด้วย นางสาคร ลาภวิบูลย์สุข อายุ 54 ปี ได้ร่วมกันแสดงความดีใจหลังจากได้รับโฉนดคืน โดยในช่วงเที่ยงที่ผ่านมาได้พายายมิตร์ไปที่ธนาคาร​ เพื่อเบิกเงินมาซื้อที่คืน​ โดยนายทุนก็ยินดีให้ซื้อคืนเป็นเงินทั้งสิ้น ประมาณ 366,000 บาทเศษ ทำให้มียอดเงินที่ได้จากการบริจาคคงเหลือ 571,765 บาท

ยายมิตร์ กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้ที่ดินคืน ดีใจจนร้องไห้น้ำตาไหลขอบคุณทุกคน ที่ให้ความช่วยเหลือซึ่งในวันที่ 28 ก.ย.จะเตรียมทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินที่มีทั้งหมดให้กับเหลน เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาต่อไป

ด้านนางสาคร กล่าวว่า  ดีใจมากที่คุณยายได้ที่คืน ซึ่งจากนี้ไปก็จะมีหลายหน่วยงานเข้ามาดูแลเรื่องเงินในบัญชี โดยจะใช้เงินบางส่วนไปซ่อมแซมบ้านให้ยายอยู่ได้อย่างปลอดภัย จากนั้นในส่วนที่เหลือ ก็จะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของเหลนต่อไป

ทวดกับเหลน 3 ขวบ หวิดไร้ที่ซุกหัว หลานขโมยโฉนดจำนองบ้านถูกยึด

ดร.ปาณิสรา กล่าวว่า ได้เข้ามาดูแลเด็กตั้งแต่ต้นปีจากปัญหาเรื่องการศึกษา ก่อนที่จะพบว่ามีปัญหาอื่นตามมาก็ได้ประสานหลายหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ ก่อนที่จะมีผู้ใจบุญโอนเงินมาให้ยายซื้อที่คืนดังกล่าว โดยในวันที่ 28 ก.ย.จะประชุมกับเจ้าหน้าที่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูเรื่องการทำพินัยกรรมของยาย ที่ต้องมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้ามาช่วยกันดูแล ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ายายต้องการยกที่ตรงนี้ให้กับเหลนเพียงคนเดียว