เหตุการณ์ชุลมุนเพราะความเมาจนขาดสติของผู้โดยสารชายรายหนึ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2567 บนเที่ยวบินของสายการบินอีซีเจ็ต ซึ่งเดินทางจากเมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักรไปยังกรุงลิสบอนแห่งโปรตุเกส 

จากคลิปวิดีโอที่มีผู้โดยสารบนเครื่องบินขณะเกิดเหตุถ่ายเอาไว้ได้นั้น แสดงภาพเหตุการณ์ของผู้โดยสารชายคนหนึ่งซึ่งมีท่าทีมึนเมากำลังโดนทีมลูกเรือและผู้โดยสารชายคนอื่น ๆ ช่วยกันจับตัวไว้ โดยที่เจ้าตัวแสดงอาการโวยวาย ข่มขู่และพยายามชกต่อยคนที่เข้ามาขวางขณะที่เขาอาละวาดในห้องโดยสาร

รายงานข่าวระบุว่า เหตุการณ์วุ่นวายนี้เกิดขึ้นขณะที่เครื่องบินกำลังจะลงจอดที่กรุงลิสบอน โดยชายผู้ก่อเรื่องพยายามจะไล่จูบปากผู้โดยสารชายอีกคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ แต่เมื่ออีกฝ่ายปฏิเสธ เขาก็เริ่มแสดงกิริยาก้าวร้าวและอาละวาดหนักจนลูกเรือต้องเข้าควบคุมตัวไว้ชั่วคราวและส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเครื่องบินลงจอด

โฉมหน้าผู้โดยสารชายที่เมาจนก่อเรื่องวุ่นและโดนควบคุมตัวไว้ในที่สุด

ชายผู้ก่อเรื่องมีอาการมึนเมาอย่างหนัก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเขาดื่มไวน์แดงมาตลอดทาง ตั้งแต่เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลาประมาณ 09.45 น. ตามเวลาท้องถิ่นของเมืองกลาสโกว์ ผู้โดยสารร่วมเที่ยวบินบางรายให้ข้อมูลว่า ชายขี้เมารายนี้แสดงกิริยาหยาบคายต่อทุกคนที่หันไปมองเขา จากนั้นก็ขอจับมือคนเหล่านั้น

เหตุการณ์เริ่มวุ่นวายมากขึ้นเมื่อหนุ่มจอมป่วนหันไปหาผู้โดยสารชายที่นั่งอยู่ด้านหลังเขาและขอจับมือ แต่อีกฝ่ายแสดงท่าทีไม่สนใจ เขาจึงปีนเก้าอี้และชะโงกข้ามเบาะไปหาและพยายามจะจูบปากผู้โดยสารชายคนนั้น ทำให้อีกฝ่ายต้องลงมือผลักเขาออกไป ซึ่งทำให้เขาโกรธมากและเริ่มแสดงกิริยาก้าวร้าว มีการยกกำปั้น ชูหมัดและตะโกนด่าทุกคน

หลังจากนั้น เขาก็พยายามจะเข้าไปทำร้ายร่างกายผู้โดยสารชายที่เขาพยายามจะจูบ ทำให้ผู้โดยสารชายคนอื่น ๆ ต้องลุกออกมาเพื่อช่วยกันจับตัวเขาไว้ร่วมกับทีมลูกเรือ จนในที่สุดก็ควบคุมตัวเขาไว้ได้เป็นเวลาประมาณ 35 นาที ก่อนที่เครื่องจะลงจอด และเจ้าหน้าที่ตำรวจของโปรตุเกสขึ้นมาคุมตัวเขาลงจากเครื่องโดยที่เขายังคงแสดงท่าทีขัดขืนไปตลอดทาง

ด้านโฆษกของอีซีเจ็ตออกแถลงการณ์ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน EJU7670 กลาสโกว์-ลิสบอน เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา พร้อมกับย้ำว่าลูกเรือของสายการบินได้รับการอบรมเพื่อรับมือสถานการณ์ในลักษณะนี้เป็นอย่างดี เพื่อรักษาความปลอดภัยโดยรวมของเที่ยวบินและผู้โดยสารซึ่งสายการบินถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดในทุกกรณี

ที่มา :  dailymail.co.uk

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES