สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ว่ากองกำลังยามฝั่งฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ ว่าในระหว่างที่เรือ “บีอาร์พี ดาตู แซนเดย์” ซึ่งเป็นพาหนะของรัฐบาล กำลังลำเลียงเสบียงและเชื้อเพลิงไปมอบให้แก่เรือประมงของฟิลิปปินส์หลายลำ ที่เกาะกลุ่มใกล้กับแนวสันดอนสการ์โบโรห์ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา กลับเผชิญกับการคุกคามจากเรือหลายลำของจีน รวมถึงเรือยามฝั่ง


รายงานระบุด้วยว่า เรือของจีน 4 ลำ เคลื่อนเข้ามาประชิดกับเรือดาตู แซนเดย์ โดยมีระยะห่างจากหัวเรือประมาณ 100 เมตรเท่านั้น ขณะเดียวกัน เรือทั้งสี่ลำยังสะกดรอย ส่งคลื่นสัญญาณรบกวน และ “เคลื่อนที่อย่างอันตราย”


แม้กองกำลังยามฝั่งฟิลิปปินส์ยืนยัน ว่าเรือดาตู แซนเดย์ สามารถฝ่าวงล้อมของเรือจีนออกมาได้ และเดินหน้าภารกิจส่งเสบียงจนสำเร็จในที่สุด อย่างไรก็ตาม นับเป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียว หลังเรือของฟิลิปปินส์อีกลำหนึ่ง คือ “บีอาร์พี ดาตู ทัมบลอต” เผชิญหน้ากับเรือของจีนในบริเวณเดียวกัน


ขณะที่โกลบอล ไทม์ส ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลปักกิ่ง กล่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเรือดาตู แซนเดย์ เป็นฝ่ายรุกล้ำน่านน้ำของเกาะหวงเหยียน ซึ่งเป็นชื่อภาษาจีนของแนวสันดอนสการ์โบโรห์


ทั้งนี้ แนวสันดอนสการ์โบโรห์ ตั้งอยู่ภายในเขตที่ฟิลิปปินส์ถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (อีอีแซด) ภายในรัศมี 200 ไมล์ทะเลจากชายฝั่ง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปักกิ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่แห่งนี้เช่นกัน ส่งผลให้แนวสันดอนสการ์โบโรห์เป็นหนึ่งในพื้นที่เกิดการเผชิญหน้า และการปะทะบ่อยครั้งที่สุดในทะเลจีนใต้.

เครดิตภาพ : AFP