สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ว่า ดัชนีการทูตระดับโลก (จีดีไอ) ซึ่งเผยแพร่โดยสถาบันโลวีของออสเตรเลีย แสดงให้เห็นว่า จีนมีสำนักงานทางการทูตมากที่สุดในโลก จำนวน 274 แห่ง ขณะที่สหรัฐมีทั้งหมด 271 แห่ง เมื่อปีที่แล้ว จากเดิมที่มีสำนักงานน้อยกว่าจีน 8 แห่ง ในปี 2564

จำนวนสำนักงานทางการทูตดังกล่าวบ่งชี้ว่า จีนมีบทบาทมากกว่าสหรัฐ ในภูมิภาคแอฟริกา, เอเชียตะวันออก, ประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิก และเอเชียกลาง ส่วนสหรัฐมีอิทธิพลแซงหน้าจีนในภูมิภาคยุโรป, อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้ และเอเชียใต้

แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ผลักดันการสร้างอิทธิพลในภูมิภาคซีกโลกใต้ หรือกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ใช้แผนริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (บีอาร์ไอ) เป็นเครื่องมือในการดำเนินการ อีกทั้งนักการทูตของเขา มักวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐ ที่ใช้มาตรการคว่ำบาตร ตลอดจนรับรู้ถึงความเกี่ยวข้องในการเมืองของกลุ่ม และสงคราม

ทั้งนี้ ตุรกี มีจำนวนสำนักงานทางการทูตมากเป็นอันดับสามของโลก รองลงมาคือ ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส ตามลำดับ

สำหรับกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดนีเซียมีเครือข่ายที่กว้างขวางมากที่สุด โดยมีสำนักงานทางการทูต 130 แห่งในต่างประเทศ และอยู่ในอันดับที่ 23 จาก 66 ประเทศในจีดีไอ ส่วนประเทศไทย มีสำนักงานทางการทูตทั้งหมด 97 แห่ง และอยู่ในอันดับที่ 39.

เครดิตภาพ : AFP