จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “ขยะแขยงมากก.. กินจนจะหมดแล้ว อปป้านางเห็นอะไรดำๆ ใต้แก้ว พอพลิกดูเท่านั้นล่ะ อ้วกแทบพุ่ง นี่เป็นแบรนด์กาแฟดังของประเทศไทยเลยนะคะ การตรวจทาน และ การจัดการเรื่องความสะอาดของที่ให้ลูกค้ากินเข้าไปต้องมาก่อนหรือเปล่าคะ อปป้านางต้องกินกาแฟทุกวัน และ สั่ง..เป็นประจำ เจอแบบนี้คือไม่กล้ากินแล้วค่ะ พอเลย” จนกลายเป็นที่วิจารณ์

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับ น.ส.พลอย (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว และนายฟิล์ม (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี แฟนหนุ่มสัญชาติเกาหลี อาชีพธุรกิจส่วนตัว โดยกล่าวว่า ปกติแฟนตนจะสั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่เย็นทุกวันผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ วันละ 2 แก้ว สั่งกาแฟแบรนด์ดังที่สาขานี้มาประมาณ 2 ปี ตั้งแต่เริ่มย้ายมาอยู่บ้านที่นี่ จนกระทั่งกินแก้วที่มีปัญหา ระหว่างใช้หลอดคนในแก้วเพื่อจะดื่มต่อ แฟนของตนรู้สึกหลอดไปสะดุดกับอะไรบางอย่างภายในแก้ว ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าเป็นแมลงสาบ อาจจะเป็นตัวกาแฟที่ติดมา แต่พอเขี่ยดูชัดๆ เห็นขาและตัวแมลงสาบ ภายในแก้วมีจุดกระจายๆ สีดำๆ บริเวณก้นแก้ว ซึ่งแฟนของตนรู้สึกวิตกกังวลว่าที่เคยสั่งกินไปทั้งหมดก่อนหน้านี้มันมีแบบนี้หรือเปล่า หรือที่ดูดก่อน จะเห็นตัวแมลงสาบ ได้กินไข่ที่ลอยอยู่บริเวณก้นแก้วไปด้วยหรือไม่ จากนั้นจึงรู้สึกกลัว ไม่ว่าจะสั่งน้ำเปล่ามาดื่ม ต้องคอยดูในแก้ว หรือในขวดตลอดว่ามีสิ่งแปลกปลอมอะไรหรือไม่ ต้องเช็กก่อนตลอด

น.ส.พลอย กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนพยายามเช็กอาการแฟนว่ามีการคลื่นไส้อาเจียนหรือไม่ ก่อนจะพาไปหมอ ซึ่งไม่ได้มีอาการใดๆ จึงไม่ได้ไป หลังเกิดเหตุการณ์ตนจึงติดต่อร้องเรียนร้านกาแฟแบรนด์ดัง และรวบรวมข้อมูลส่งไป วันรุ่งขึ้นทางเจ้าของร้านติดต่อมาเพื่ออยากที่จะพูดคุย สิ่งที่ตนคิดคืออยากได้รับคำขอโทษ หรือการใส่ใจกับลูกค้า สอบถามอาการว่าเราเป็นอย่างไร แต่กลับไม่มีการสอบถามอะไรเลย ได้แต่อธิบายเหตุผลฝั่งของร้านว่ามีการตรวจสอบแล้ว และดูกล้องวงจรปิด แจ้งว่าไม่เห็นแมลงสาบ หากไม่พบว่ามาจากไหน และมีการปิดร้านทำ Big Cleaning เจ้าของร้านพยายามจะนำ Gift Set มาให้ทางตน พร้อมกับบอกให้ตนลบโพสต์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งตนกับแฟนไม่ได้อยากได้ของหรือเงิน เราแค่รอว่าทางร้านจะออกมาขอโทษตนในรูปแบบไหน ซึ่งตนได้มาคุยกับแฟนและรู้สึกว่าการใส่ใจลูกค้าในฐานะผู้บริโภคจากทางร้านค่อนข้างน้อย ตนอยากได้การแสดงความรับผิดชอบที่จริงใจ ระหว่างการเจรจาไม่ลงตัว ทางเจ้าของร้านจึงเสนอให้ค่าตรวจสุขภาพ จำนวน 3,000 บาท ซึ่งตนเลือกที่จะไม่รับเงินจากทางร้าน เพราะตนเสียความรู้สึกไปแล้ว แฟนของตนเป็นคนเกาหลี ค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องที่เกิดขึ้น ลองนึกว่าถ้าแก้วนี้ไม่ได้อยู่ในมือของแฟนตน แต่ไปอยู่ในมือของคนที่แพ้แมลงจะเป็นยังไง เรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้นกับใครอีกหลายๆ คน อยากให้ทางร้านออกมาแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ ทางร้านควรเป็นคนเสนอความรับผิดชอบ ไม่ใช่ให้ตนไปนำเสนอเอง อยากให้ทางร้านแสดงความรับผิดชอบแบบจริงใจกับลูกค้า การเป็นมืออาชีพในแบรนด์ ควรแสดงออกหรืออธิบายอะไรตนมากกว่านี้ ว่าจะแก้ไขอย่างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบนี้

น.ส.พลอย กล่าวอีกว่า แล้วช่วงเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา พ่อกับแม่ของแฟนตนมาประเทศไทย และได้มีการสั่งกาแฟแบรนด์ดังเจ้านี้ให้กับทางบ้านดื่ม ตอนนี้ก็ไม่กล้าบอกตรงๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น ได้แต่พยายามสอบถามอาการข้างเคียง เพราะถ้าเป็นที่เกาหลีจะค่อนข้างซีเรียสในเรื่องนี้มาก เรื่องของความสะอาด ถ้าเป็นแบบนี้เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องใหญ่มาก ตนยังไม่ได้แจ้งความ เนื่องจากตนพยายามจะติดต่อคู่กรณีก่อน และไม่ได้คิดว่าจะต้องไปแจ้งความ คิดว่าวิธีการติดต่อไปทางแบรนด์โดยตรงน่าจะสะดวกกว่า แก้ปัญหาได้เร็วที่สุดและดีที่สุด อยากให้ทางร้านควรที่จะแคร์ลูกค้า และแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้.