นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ผลการทำงานของ AOC 1441 ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือ เอโอซี 1441 (AOC 1441) ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.66-31 ม.ค.67 มีประชาชนติดต่อ 307,515 สาย และสามารถช่วยระงับ/อายัดบัญชีแล้ว 39,918 บัญชี โดยในเดือน ม.ค.67 มีสถติใช้เวลาเฉลี่ย 9 นาที ต่อการระงับบัญชี นอกจากนี้ จากข้อมูลของตำรวจไซเบอร์ ในเดือน ม.ค.67 จำนวนเงินที่ประชาชนขอระงับ/อายัด 3,408 ล้านบาท อายัดได้ 1,934 ล้านบาท คิดเป็น 56.7% ถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดิม ก่อนมีศูนย์เอโอซี 1441 สถิติ ระงับ/อายัดได้เพียง 11% เท่านั้น โดยช่วง 1 มี.ค. 65-30 ก.ย. 66 ขอระงับ/อายัด 11,252 ล้านบาท อายัดได้ 1,316 ล้านบาท

สำหรับ ท็อป 5 การระงับ/อายัดบัญชีแยกตามประเภทคดีออนไลน์ ของจำนวนบัญชีที่ระงับ/อายัดทั้งหมด (1 พ.ย. 66–31 ม.ค. 67) นั้น อันดับ 1.หลอกลวงซื้อขายสินค้า ระงับ 17,954 บัญชี คิดเป็น 44.9% ของจำนวนบัญชีที่ระงับ/อายัดทั้งหมด 2.หลอกลวงรายได้พิเศษ ระงับ 5,340 บัญชี คิดเป็น 13.3% 3.หลอกลวงลงทุน ระงับ 3,733 บัญชี คิดเป็น 9.3% 4.หลอกลวงให้กู้เงิน ระงับ 3,353 บัญชี คิดเป็น 8.4% และ 5.หลอกลวง ข่มขู่ให้โอนเงิน  ระงับ 2,462 บัญชี คิดเป็น 6.2%

นายประเสริฐ  กล่าวต่อว่า ภาพรวมการดำเนินงานศูนย์เอโอซี 1441 เป็นที่น่าพอใจ สามารถช่วยประชาชนได้เป็นจำนวนมาก การทำงานร่วมกับตำรวจ สมาคมธนาคารไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน กสทช. และผู้ให้บริการมือถือ สามารถระงับ/อายัดบัญชีได้รวดเร็ว และทำการขยายผลจับกุมดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในระยะต่อไปตำรวจต้องเร่งขยายผลจับกุมดำเนินคดี จากข้อมูลบัญชีม้า หรือบัญชีที่คนร้ายใช้สำหรับการรับโอนเงิน และตามเส้นทางการเงิน หมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับบัญชี เป็นต้น

“นายกฯ เศรษฐา มีความห่วงใยต่อประชาชน และได้สั่งการให้ ดีอี ทำงานเชิงรุก ด้วยความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ทำให้ในภาพรวม มีการทำงานดีขึ้นมาก ใช้เวลาในการอายัดบัญชีลดลงเหลือ เฉลี่ย 9 นาที และทำการอายัดได้ถึง 500 บัญชีต่อวัน ช่วยให้อายัดเงินทันถึง 56.7%  จากก่อนมีจัดตั้งศูนย์ฯที่อายัดทันเฉลี่ย  11% เท่านั้น มั่นใจว่าศูนย์ฯ 1441 จะช่วยแก้ปัญหาภัยออนไลน์ให้ประชาชนได้ ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดี หาตัวผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น” นายประเสริฐ  กล่าว

ด้าน นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดีอี กล่าวว่า แม้ว่าการดำเนินการของ เอโอซี 1441 จะช่วยประชาชนได้จำนวนมากเพิ่มขึ้น แต่ต้องขอเตือนว่า การซื้อขายออนไลน์ การชักชวนลงทุน การปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะช่องทางเฟซบุ๊ก มีคนร้ายใช้ช่องทางนี้จำนวนมาก ในการหลอกลวง โดยใช้วิธีการซื้อโฆษณาในเฟซบุ๊กเพื่อเข้าถึงประชาชนจำนวนมาก และยังพบว่ามีประชาชนหลงเชื่อ และถูกหลอกลวงทุกๆ วันเป็นจำนวนมาก จึงขอเตือนประชาชนต้องรู้ทัน ไม่หลงเชื่อโจรออนไลน์ที่ยังใช้วิธีนี้