นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการโคบาลชายแดนใต้ว่า ในเฟสแรกที่มีนำร้อง 3,000 ตัว จะขอไปดูก่อนว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่ หากจะมีการทำต่อ ได้ปรึกษากับอธิบดีกรมปศุสัตว์แล้วว่า ถ้าไม่ทำตามเงื่อนไขที่กรมปศุสัตว์วางไว้ เราจะไม่สนับสนุนให้โครงการนี้เดินหน้าต่อ เพราะกรมปศุสัตว์อาจจะเป็นแพะรับบาปได้ เนื่องจากกรมปศุสัตว์มีหน้าที่ในการสนับสนุนด้านองค์ความรู้ ด้านวิชาการ และสุขภาพสัตว์ แต่การกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ไม่ใช่หน้าที่เรา แต่วันนี้กลายเป็นเราต้องมารับภาระต่างๆ ทั้งหมด

ส่วนประเด็นที่จะให้เงินเกษตรกรเพื่อไปหาซื้อพันธุ์โคเอง ก็ถือเป็นเงื่อนไขหนึ่ง ที่จะเสนอกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบหลัก จะต้องให้อิสระกับเกษตรกรมากขึ้น ต้องโปร่งใส เพราะคนที่รับผิดชอบคือเกษตรกร แม้กระทั่งโครงการที่เกี่ยวข้องกับเลี้ยงโคทั้งหลาย เราไม่ต้องการให้เป็นภาระกับเกษตรกร เพียงแต่กรมปศุสัตว์จะเป็นผู้วางกรอบจะต้องทำแบบไหน

“หากโครงการนี้ จะเดินต่อ เราได้ทำการบ้านไว้แล้วว่า จะต้องทำตามกรอบที่กรมปศุสัตว์วางไว้ เช่น จะต้องอยู่ในศูนย์กักกันของกรมปศุสัตว์ที่สามารถกำกับดูแลในเรื่องสุขภาพสัตว์ได้ แต่ขณะนี้ต้องไปดูเฟสแรก 3,000 ตัว มีการแก้ไขอย่างไร เกษตรกรพอใจหรือไม่ เพราะบางจังหวัดยังมีปัญหาอยู่ อาทิ จ.สตูล ที่มีการส่งมอบก่อน แต่เกษตรกรยังไม่ได้มีการคัดเลือก”