เมื่อวันที่ 29 ก.พ. พล.ต.ต. พันธนะ นุชนารถ รองผบช.สตม. กล่าวถึงกรณีคนร้ายชาวไต้หวันฆ่าเพื่อนร่วมชาติแล้วนำศพไปทิ้งไว้ในร้านค้าร้างริมถนนสุวรรณภูมิสาย 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนหนีออกไปทางด่านอรัญประเทศ ตำรวจสามารถติดตามตัวหญิงไทย 1 ใน 5 ผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

ส่วนพวกร่วมแก๊งอีก 4 คน ทาง ตม.ได้ส่งทีม ตม.3 ไปร่วมสืบสวน จนรู้ตัวผู้ต้องหาเป็นใคร โดยผู้ต้องหา 2 คนแรก คือผู้หญิงไทย ที่ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวไปแล้ว และคนที่ 2 คือ เพื่อนชายชาวไต้หวัน ถูกควบคุมตัวที่ประเทศไต้หวัน และจะมีการส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ส่วนอีก 3 คนที่เหลือทาง ตม.มีฐานข้อมูล พบว่าทั้งชาวไต้หวัน 3 คน หลบหนีอยู่ในกัมพูชา อยู่ระหว่างการดำเนินการแกะรอย ติดตามตัว และเชื่อว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้

ส่วนเหตุที่ตำรวจจับได้เพียงแก๊งผู้ก่อเหตุได้แค่ 2 คน เนื่องจากช่วงที่ออกไปกัมพูชา ต่างแยกย้ายกันหลบหนี จึงทำให้จับกุมผู้ต้องหาได้เพียงแค่ 2 คน

สำหรับเส้นทางการเดินทางเข้าไทย พบว่า คนร้าย 3 คน เข้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นการเดินทางครั้งแรกไม่มีประวัติในการเดินทางมาก่อน ส่วนอีก 1 คน ไม่พบประวัติเข้าออกไทย เชื่อว่าหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ

ทั้งนี้จากการสอบสวน พบไทม์ไลน์ว่า กลุ่มผู้ต้องหาเดินทางเข้าประเทศไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต้้งแต่ตี 1 ของวันที่ 25 ก.พ. 67 เชื่อว่ามีการก่อเหตุฆาตกรรมในเวลาตี 3-4 ต่อมาได้พบศพในเวลา 7 โมงเช้า จากนั้นได้มีบันทึกภาพวงจรปิดคนร้ายที่ด่านอรัญประเทศ เพื่อเดินทางออกไปยังกัมพูชาในเวลา 13.00 น. รวมเวลาอยู่ในไทย 12 ชั่วโมง โดยไม่มีการแวะพักที่ใด ซึ่งเชื่อว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อจงใจก่อเหตุฆาตกรรม.