สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ว่า กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ รายงานมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 112 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 750 คน จากเหตุการณ์ฝูงชนเข้าไปรายล้อมและแย่งกันรับสิ่งของบรรเทาทุกข์ จากคาราวานรถบรรทุก 38 คัน ในเขตทางตะวันตกของเมืองกาซาซิตี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของฉนวนกาซา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และทหารอิสราเอลยิงปืนเข้าใส่ฝูงชนด้วย


ต่อมา กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ ว่าชาวปาเลสไตน์หลายพันคนเบียดเสียดจนแทบเหยียบกัน ระหว่างแย่งกันรับแจกสิ่งของ โดยหลายคนวิ่งตัดหน้ารถที่กำลังแล่นอยู่ ส่งผลให้มีทั้งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลยอมรับว่า ทหารในพื้นที่ยิงปืนเข้าใส่ฝูงชนจริง แต่ให้เหตุผลว่า “เพื่อควบคุมสถานการณ์ที่กำลังอันตราย”


ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว และรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายประกอบการประเมินเหตุการณ์ ขณะที่รัฐบาลกาตาร์เตือนว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้ อาจกลายเป็นการขยายวงจรความรุนแรง ส่วนรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และคูเวต ออกแถลงการณ์ประณามอิสราเอลอย่างหนัก


อนึ่ง สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งสู้รบกันในฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2566 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30,000 ราย ท่ามกลางความพยายามครั้งใหม่ของนานาประเทศ นำโดยกาตาร์และอียิปต์ ซึ่งต้องการให้อิสราเอลและกลุ่มฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิงครั้งใหม่ ครอบคลุมตลอดเดือนรอมฎอน หรือการถือศีลอดของชาวมสุลิม ที่จะเริ่มในวันที่ 10 มี.ค. นี้.

เครดิตภาพ : AFP