รายงานข่าวจากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) แจ้งว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จึงมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด ประกอบด้วย สำนักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท และหมวดบำรุงทางหลวงชนบททุกพื้นที่ ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที โดยการนำน้ำประปาสะอาดไปแจกจ่ายประชาชน เพื่อใช้สำหรับอุปโภค บริโภค ในการดำรงชีวิตประจำวัน

ปัจจุบันได้นำเจ้าหน้าที่และรถบรรทุกน้ำประปาเข้าช่วยเหลือแจกจ่ายน้ำทั่วทุกภูมิภาคแล้ว 16 จังหวัด จำนวน 222,500 ลิตร ดังนี้ ภาคกลาง 5 จังหวัด จำนวน 100,000 ลิตร ได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา 24,000 ลิตร, สิงห์บุรี 10,000 ลิตร, ชัยนาท 24,000 ลิตร, ลพบุรี 12,000 ลิตร และ สุพรรณบุรี 30,000 ลิตร ภาคตะวันตก 2 จังหวัด 50,000 ลิตร ได้แก่ ราชบุรี 15,000 ลิตร และ กาญจนบุรี 35,000 ลิตร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) 4 จังหวัด 45,500 ลิตร ได้แก่ เลย 5,000 ลิตร, ขอนแก่น 25,500 ลิตร, ศรีสะเกษ 5,000 ลิตร และ มุกดาหาร 10,000 ลิตร ภาคเหนือ 2 จังหวัด 4,000 ลิตร ได้แก่ เพชรบูรณ์ 2,000 ลิตร และ อุตรดิตถ์ 2,000 ลิตร ภาคตะวันออก 1 จังหวัด คือ จันทบุรี 12,000 ลิตร และ ภาคใต้ 2 จังหวัด 11,000 ลิตร ได้แก่ ชุมพร 5,000 ลิตร และ สตูล 6,000 ลิตร

นอกจากนี้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ยังให้หน่วยงานสำรวจโครงข่ายในความรับผิดชอบที่มีความเสี่ยงต่อการทรุดตัวและกรณีดินถล่มบริเวณไหล่เขา พร้อมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากเกิดกรณีสายทางทรุดตัวแล้ว ต้องเข้าดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนสัญจรได้ชั่วคราว และติดตั้งป้ายเตือน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

ทั้งนี้ ทช. ได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจัดทำป้ายรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหน้าที่และประชาชนหยุดการเผาป่า วัชพืช หญ้าข้างทางในเขตทางหลวงชนบท เน้นย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่เมื่อดำเนินการตัดหญ้าสองข้างทางให้เก็บเศษหญ้าวัสดุให้เรียบร้อย

ส่วนกรณีที่เกิดเหตุการณ์ให้หน่วยงานนำบุคลากร พร้อมรถบรรทุกน้ำ บูรณาการดับไฟป่าร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ พร้อมติดตาม ตรวจสอบความเสียหาย เมื่อเข้าสู่ภาวะปกติ หมั่นทำความสะอาดในสายทางรับผิดชอบให้ปลอดฝุ่นละออง พร้อมติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำในเส้นทางสำคัญ รวมทั้งบังคับใช้ พ.ร.บ.ทางหลวงอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม ทช. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1146 หรือแขวงทางหลวงชนบทจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป