จากกรณี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. แถลงผลการจับกุมขบวนการหลอกขายไอโฟน ผ่านอินสตาแกรม (ไอจี) เป็นเหตุให้เหยื่อเด็กชายวัย 14 ปี ที่ถูกหลอกเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต โดยกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่า รับจ้างเปิดบัญชีให้ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี นายทุนที่เปิดร้านค้าออนไลน์ มีผู้ติดตามประมาณ 60,000 คน มีพฤติกรรมชอบใช้ของแบรนด์เนมใช้ชีวิตหรูหรา ซึ่งเงินส่วนใหญ่ที่ได้มาก็มาจากการฉ้อโกงผู้อื่น จึงถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับเลขที่ 638/64 ลงวันที่ 24 ก.ย.64 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก่อนเดินทางเข้ามอบตัวที่ บก.ภ.จว.เชียงใหม่ เนื่องจากทนกดดันไม่ไหว พร้อมให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ปฏิเสธทุกข้อหา! ‘พิยดา’ อ้างไม่เคยรู้จัก-ปัดหลอกขายมือถือให้เด็ก14
ด่วน! ‘พิยดา’หลอกขายมือถือเด็ก14 โผล่มอบตัวตร.เชียงใหม่ คุมตัวสอบเครียด
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าคดีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง ผบ.ตร. ให้ความสนใจเป็นอย่างมากและกำชับในการติดตามคดีที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด ตำรวจได้กดดันทุกวิธีทาง เพราะหลังเกิดเหตุ น.ส.พิยดา ได้หลบหนีหายตัวไป จนกระทั่งทนายความพามาพบกับตำรวจเพื่อขอมอบตัวตามหมายจับ แต่ผู้ต้องหามีหมายจับ จึงจับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบ คดีที่เกิดขึ้นนี้กระทบต่อจิตใจคนทั้งประเทศ ผู้ต้องหาจะให้การว่าอย่างไร ก็เป็นเรื่องของผู้ต้องหา เรามีหน้าที่สืบสวนสอบสวน หาหลักฐานมาเอาผิดกับผู้ต้องหา และจะขยายผลว่ายังมีคนอื่นที่ร่วมขบวนการนี้อีกหรือไม่
ต่อมาช่วงบ่าย ตำรวจได้นำตัว น.ส.พิยดา ไปสอบปากคำเพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (บช.ภ.5) โดยมี พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 เป็นผู้สอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปส่งดำเนินดคีตามกฎหมายที่ สภ.นาหวาย เพื่อให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ โดยไม่ให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และจะนำตัวฝากขังศาลจังหวัดศาล ในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลด้วยเช่นกัน
ด้าน พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 กล่าวว่า จากการสอบสวนอย่างละเอียดผู้ต้องหาไม่ยอมให้การใดๆ เพียงแต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมบอกว่า จะชี้แจงทุกอย่างทางชั้นศาลต่อไป ตอนนี้เราก็นำตัวเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนส่งศาล ส่วนจะมีการให้ประกันตัวหรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจของศาล และตัวผู้ต้องหายังมีหมายจับอีกหลายคดี ก็มีการแจ้งอายัดมาที่ศาลจังหวัดฝาง แล้วขั้นตอนต่อไป จะขยายผลการจับกุมว่า ขบวนการนี้มีใครเกี่ยวข้องอีก หากมีก็จะจับกุมเพิ่มเติมให้หมด ส่วนความผิดของผู้ต้องหาเรามีพยานหลักฐานมัดแน่น ก่อนขอศาลออกหมายจับ เชื่อว่าจากหลักฐานที่มีจะเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ส่วนทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งบ้านหรู รถหรู เงินสดกว่า 40 ล้านในบัญชี ทางตำรวจเราก็เสนอให้ ปปง. เป็นคนดำเนินการหากพบผิดก็จะเข้าข่ายยึดทรัพย์ต่อไป
