นายวฤทธิ์ ภักดียิ่งยง รองประธานสายงานการขาย นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัญหาไฟป่าและผลกระทบจากไฟป่า โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 เป็นประเด็นใหญ่ที่ไม่ได้ส่งผลต่อพื้นที่หรือชุมชนรอบๆ เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อเนื่องไปทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน การแก้ไขปัญหานี้มีความซับซ้อน ละเอียดอ่อน ต้องอาศัยทั้งเวลา และความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการบรรเทาความรุนแรง นิสสันได้มีส่วนร่วมในภารกิจพิชิตไฟป่ามาอย่างต่อเนื่อง และได้เห็นว่าการสนับสนุน ยานยนต์สมรรถนะสูงอย่างนิสสัน นาวารา พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็น สามารถช่วยให้ผู้ที่อยู่ด่านหน้าเผชิญกับปัญหาและช่วยในภารกิจพิชิตไฟป่าได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ในปีนี้ เรายังได้ขยายผลโดยร่วมสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูป่าอย่างยั่งยืนด้วย”

ด้าน นายธวัชชัย ธนะโรจน์รุ่งเรือง ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ และหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟเชียงใหม่กล่าวว่า “เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเป็นคนกลุ่มแรกที่ต้องเผชิญกับไฟป่า เสี่ยงชีวิต ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่ยากมาก ป่ารก เขาสูง เหวลึก การได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและสังคม คือ กำลังใจที่ดีมาก การสนับสนุนในการปฏิบัติภารกิจยังช่วยผ่อนภาระของภาครัฐ ช่วยให้เราปฏิบัติหน้าที่ได้สะดวกและปลอดภัยขึ้น ที่สำคัญ คือ สะท้อนให้เห็นว่าทุกภาคส่วนมีความตั้งใจจะร่วมมือกันดูแลสิ่งแวดล้อมและแก้ปัญหาของส่วนรวมอย่างแท้จริง”

ตั้งแต่เริ่มฤดูแล้งเป็นต้นมา จุดความร้อนในผืนป่าทั่วประเทศเริ่มพบได้บ่อยขึ้น ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รายงานว่า ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบจุดความร้อนหรือไฟป่าในประเทศไทย 1,151 จุด และล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบจุดความร้อนหรือไฟป่าในประเทศไทย 895 จุด ซึ่งนับว่ามีความรุนแรงมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองลงมาจากเมียนมา และกัมพูชา

พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงมากและมีสถิติการเกิดไฟป่ามากที่สุด และแนวโน้มการเกิดไฟป่ายังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากสภาพอากาศร้อนแห้ง ติดไฟได้ดี อย่างไรก็ตาม จากรายงานล่าสุดของจังหวัดเชียงใหม่ ความร่วมมือระหว่างจังหวัดเชียงใหม่และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดการและลดจุดความร้อนมีความเข้มข้นและมีประสิทธิภาพ ทำให้ในช่วง 1-2 เดือนแรกของปีนี้ จังหวัดเชียงใหม่ สามารถจัดการและลดจุดความร้อนลงได้ 87% และค่าฝุ่นมาตรฐานลดลง 93%

ในช่วงวิกฤติของสถานการณ์ไฟป่าใน 2 ปีที่ผ่านมา นิสสัน นาวารา PRO-4X ได้ร่วมปฏิบัติการในภารกิจป้องกันและดับไฟป่า ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยทีมเหยี่ยวไฟรายงานว่า นิสสัน นาวารา ช่วยให้ทีมเข้าถึงพื้นที่ได้รวดเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดระยะเวลาในการปฏิบัติงานจากเฉลี่ย 5 ชั่วโมง เหลือเพียงประมาณ 3 ชั่วโมง สำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก และลดจาก 2 วัน เหลือ 1 วัน สำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 20 ไร่ขึ้นไป

นิสสัน นาวารา PRO-4X มาพร้อมเครื่องยนต์สมรรถนะสูง YS23DDTT แบบ 4 สูบ DOHC เทอร์โบคู่ ความจุ 2.3 ลิตร  ให้กำลังสูงสุด 190 hp (Ps) และแรงบิดสูงสุดถึง 450 นิวตันเมตร (Nm) มาพร้อมเกียร์ออโตเมติก 7 สปีด ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบธรรมดา (M mode) ได้เพื่อการขับขี่ที่ควบคุมได้ดังใจ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เทคโนโลยีช่วยการขับขี่และความปลอดภัยขั้นสูงรอบคัน เต็มที่กับการบรรทุกหนักและการใช้งานที่ต้องความแข็งแกร่งด้วยโครงสร้างโมโนเฟรมแชสซีทำจากเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน (Fully Boxed Frame) ที่มีชื่อเสียงของนิสสัน มีพื้นที่บรรทุกของได้มาก บันไดในตัวที่กันชนหลังช่วยให้เข้าออกกระบะท้ายได้ง่ายและฝาท้ายแบบผ่อนแรงที่ช่วยในภารกิจต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงจุดยึดของรอบๆ ทั้งแบบที่ด้านล่างและที่รางแบบเลื่อนปรับ ได้ช่วยให้การบรรทุกสัมภาระเป็นไปอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย

นอกจากนิสสัน นาวารา 2 คันแล้ว นิสสัน ประเทศไทย ยังได้มอบการสนับสนุนอื่นๆ ทั้ง เครื่องมือ อุปกรณ์สำหรับปฏิบัติภารกิจ อาทิ เลื่อยไฟฟ้า ไฟสปอตไลต์อเนกประสงค์ รวมถึง ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารแห้ง ให้กับเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครที่เป็นกำลังหลักในการป้องกันไฟป่า

พร้อมกันนี้ นิสสัน ยังได้นำทีมพนักงานของบริษัทร่วมกับพนักงานของผู้จำหน่ายฯ ในพื้นที่ ร่วมกันสร้างฝายชะลอน้ำที่ บ้านแม่ตะไคร้ อ.แม่ออน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นระยะยาวให้แก่ผืนป่า จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่มีการเกิดไฟป่าบ่อยครั้ง โดยเมื่อพ้นฤดูกาลไฟป่าไปแล้ว ฝายชะลอน้ำแห่งนี้ ยังจะช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูป่าและธรรมชาติโดยรอบอีกด้วย