“เทรนด์การทำประกันชีวิตของคนรุ่น Gen Z เป็นอย่างไร?”
คนรุ่น Gen Z หรือกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี กำลังกลายเป็นกลุ่มกำลังสำคัญในหลาย ๆ แง่มุมของสังคม ในแง่ของการเงิน คนรุ่น Gen Z เริ่มมีบทบาทมากขึ้น หลายคนเริ่มทำงาน มีรายได้ และเริ่มมองหาวิธีจัดการเงินและวางแผนการเงินสำหรับอนาคต หนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับการวางแผนการเงินก็คือ “ประกันชีวิต” เทรนด์การทำประกันชีวิตของคนรุ่น Gen Z มีอะไรที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน ๆ บ้าง?

เทรนด์การทำประกันชีวิตของคนรุ่น Gen Z มีความแตกต่างจากคนรุ่นก่อน ๆ ดังนี้
1. ช่องทางการซื้อ: คนรุ่น Gen Z นิยมซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่าตัวแทน สะดวก รวดเร็ว เปรียบเทียบเบี้ยประกันได้ง่าย
2. รูปแบบประกัน: คนรุ่น Gen Z นิยมซื้อประกันสุขภาพ เน้นคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล รองลงมาคือประกันอุบัติเหตุ ประกันโรคร้ายแรง
3. ระยะเวลาคุ้มครอง: คนรุ่น Gen Z นิยมซื้อประกันระยะสั้น เน้นความคุ้มครองในปัจจุบัน มากกว่าวางแผนระยะยาว
4. เบี้ยประกัน: คนรุ่น Gen Z ให้ความสำคัญกับเบี้ยประกันที่จ่ายไหว มองหาการทำประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันไม่แพง คุ้มค่า
5. เทคโนโลยี: คนรุ่น Gen Z นิยมใช้เทคโนโลยี ต้องการประสบการณ์การใช้งานที่สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงข้อมูลง่าย

ประกันชีวิตที่น่าจะได้รับความนิยมจากคนรุ่น Gen Z ในอนาคต มีดังนี้:

• 1. ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์และลงทุน: คนรุ่น Gen Z มองหาประกันที่ไม่ใช่แค่คุ้มครองชีวิต แต่ยังสามารถออมเงินและลงทุนเพื่อผลตอบแทนในอนาคต ประกันแบบ Unit-Linked Insurance Plans (ULIPs) น่าจะเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะให้ความยืดหยุ่นในการลงทุนและโอกาสรับผลตอบแทนที่สูง
• 2. ประกันชีวิตแบบดิจิทัล: คนรุ่น Gen Z คุ้นเคยกับเทคโนโลยี การทำประกันชีวิตแบบดิจิทัลที่สามารถซื้อ จ่ายเบี้ย และเคลมผ่านช่องทางออนไลน์ จะเป็นตัวเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว
• 3. ประกันชีวิตแบบระยะสั้น: คนรุ่น Gen Z มองหาความยืดหยุ่น ประกันชีวิตแบบระยะสั้น เช่น ประกัน 1 ปี หรือ 5 ปี จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์
• 4. ประกันชีวิตที่มีบริการเสริม: ประกันชีวิตที่มีบริการเสริม เช่น บริการด้านสุขภาพ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน บริการด้านกฎหมาย จะเป็นตัวเลือกที่ดึงดูดใจ
• 5. ประกันชีวิตแบบ Microinsurance: ประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันราคาถูก เหมาะกับคนที่มีรายได้น้อย จะเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้ง่าย
• 6. ประกันชีวิตแบบ On-demand: ประกันชีวิตที่สามารถซื้อได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องผูกมัดสัญญาระยะยาว จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
• 7. ประกันชีวิตแบบ P2P: ประกันชีวิตแบบ Peer-to-peer (P2P) ที่ไม่ผ่านตัวแทน จะเป็นตัวเลือกที่ให้เบี้ยประกันราคาถูก และความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการ

สาเหตุ:

• คนรุ่น Gen Z คุ้นเคยกับเทคโนโลยี ชอบการทำประกันชีวิตที่สะดวก รวดเร็ว
• คนรุ่น Gen Z มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ต้องการความคุ้มครองที่ยืดหยุ่น
• คนรุ่น Gen Z มีรายได้ไม่แน่นอน มองหาประกันที่จ่ายไหว

ผลกระทบ:

• บริษัทประกันภัยต้องปรับตัว พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่น Gen Z
• ตัวแทนประกันภัยต้องเปลี่ยนวิธีการขาย เน้นช่องทางออนไลน์ นำเสนอประกันที่ตรงใจคนรุ่น Gen Z

ข้อเสนอแนะสำหรับบริษัทประกัน

• พัฒนาประกันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่น Gen Z
• นำเสนอข้อมูลประกันที่ชัดเจน เข้าใจง่าย
• พัฒนาช่องทางการซื้อประกันออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว
• มอบบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ