เมื่อวันที่ 10 มี.ค. นางเกศทิพย์ ศุภวานิช โฆษกสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอภาพความรุนแรงต่อเด็กผ่านทางสื่อออนไลน์จำนวนมาก ทั้งการทะเลาะวิวาท หรือการทำร้ายร่างกายกัน โดยที่มีการนำคลิปเหตุการณ์มาเผยแพร่ต่อสาธารณชนซึ่งสะเทือนต่อความรู้สึกนั้น

นางเกศทิพย์ กล่าวว่า ในประเด็นดังกล่าว ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ได้นำความห่วงใยของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีต่อเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวที่เกิดขึ้น เนื่องจากเด็กและเยาวชนอยู่ในช่วงวัยที่กำลังเรียนรู้และยังมีความเปราะบางทางอารมณ์ การนำเสนอภาพความรุนแรงต่อเด็กอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเด็ก หรือเกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันความรุนแรงที่เกิดกับเด็กมีหลากหลายปัจจัยมาก ส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบค่อนข้างรุนแรงกับเด็ก ซึ่งมีปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความรุนแรง เช่น การเสพสื่อต่างๆ ที่มีเนื้อหารุนแรงโดยไม่มีผู้ใหญ่คอยชี้แนะ ไม่ว่าจะเป็นสื่อในโทรทัศน์ หรือโซเชียลมีเดีย อินเทอร์เน็ต สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดเป็นผลร้ายต่อเด็กที่กระทำ ถูกกระทำ และร่วมอยู่ในเหตุการณ์ในคลิปทั้งหมด รวมถึงเด็กที่ดูคลิปที่ถูกส่งต่อกันมาเช่นกัน

ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ขอวิงวอนผู้ใช้โซเชียลมีเดียทุกช่องทาง งดเผยแพร่ภาพความรุนแรงต่อเด็กในทุกกรณี และนำออกจากสื่อต่างๆ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเด็ก รวมถึงป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ และหลีกเลี่ยงการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย ซึ่งการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กทางสื่อประเภทใดประเภทหนึ่ง โดยมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อจิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์ของเด็ก เป็นการฝ่าฝืนข้อห้าม ตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มีโทษตามมาตรา 79 ของ พ.ร.บ.เดียวกัน จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการคุ้มครองเด็ก สามารถแจ้งความเกี่ยวกับสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อโซเชียลที่กระทำการในลักษณะดังกล่าว เพื่อดำเนินคดีได้ ซึ่งในการนี้ “กระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. เข้าใจในความห่วงใยของผู้ส่งต่อเช่นกันที่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่หากพบเหตุการณ์ในลักษณะที่ไม่ปลอดภัยกับเด็ก สามารถประสานแจ้งมาที่หน่วยงานที่มีหน้าที่คุ้มครองเด็กของกระทรวงศึกษาธิการโดยตรง สายด่วน ศธ. 1579 ได้ตลอดเวลา และจะรีบดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน จักขอบคุณอย่างยิ่งค่ะ” โฆษก สพฐ. กล่าว