เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่เพจชื่อดัง ได้เสนอข่าวเรื่อง เจ้าหน้าที่การเงินสาว อบต. แห่งหนึ่งในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ยักยอกเงินของทางราชการไปจำนวนทั้งสิ้น 11,600,000 บาท โดยมีการทำลายหลักฐานการเงินในช่วงเช้าวันหยุดตรงกับวันมาฆบูชา วันที่ 24 ก.พ. 2567 เจ้าหน้าที่การเงินที่ก่อเหตุได้เข้าไปในห้องกองคลัง จากนั้นนำเอาเอกสารฎีกาเบิกเงินต่างๆ นำออกไปเพื่อทำลายทิ้ง พบว่ามีการนำเช็คจำนวนทั้งหมด 28 ใบ รวมเงินจำนวน 11,600,000 บาท ไปขึ้นเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่งในเขต อ.กันทรลักษ์ จากนั้นมีการถ่ายโอนเงินไปยังคนใกล้ชิดและญาติของเจ้าหน้าที่การเงินสาว ซึ่งผู้มีอำนาจลงนามเบิกจ่ายเงินประกอบด้วย นายก อบต. ปลัด อบต. และ ผอ.กองคลัง โดยเจ้าหน้าที่การเงินสาวเป็นผู้นำเอาเช็คไปเบิกเงิน โดยข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่การเงินสาวที่ก่อเหตุเป็นหลานสาวของนายอำเภอแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ

เพื่อเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ อบต.แห่งหนึ่งเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อไปถึงพบว่า อบต. หยุดทำการเนื่องจากว่า เป็นวันหยุดราชการ ด้านหน้า อบต. มีรถดับเพลิงและรถราชการจอดอยู่หลายคัน ส่วนห้องทำงานทุกแห่งปิดล็อกกุญแจเอาไว้ โดยที่บริเวณหน้าห้องกองคลังมีป้ายปิดประกาศเอาไว้ด้านหน้ามีข้อความว่า กองคลัง อายัดเอกสารทางการเงินการคลังและเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องติดอยู่ที่ประตูกระจกทางเข้ากองคลัง รอบบริเวณอาคารที่ทำการ อบต. มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้เพื่อเป็นการป้องกันรักษาทรัพย์สินของทางราชการ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องตามที่เป็นข่าวจาก ปลัด อบต.ดังกล่าว ซึ่งปลัด อบต. ยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตามที่เป็นข่าวนั้นเป็นเรื่องจริง มีการยักยอกเงินของทางราชการไป เรื่องนี้กำลังมีการดำเนินการตรวจสอบอยู่ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งท่านนายก อบต. ได้ไปดำเนินการแจ้งความไว้เรียบร้อยแล้วที่ สภ.กันทรลักษ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ จากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้นพบว่ามีเงินหายไปจากระบบบัญชีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 11 ล้านบาทเศษ ส่วนตัวผู้กระทำผิดนั้นได้ไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ และได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวออกมา ขณะนี้พักอยู่บ้านพักส่วนตัวในเขต อ.กันทรลักษ์

ซึ่งการที่ได้ตรวจเจอว่ามีการทุจริตในช่วงแรกนั้น เนื่องจากว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดศรีสะเกษ (สตง.) ได้เข้ามาตรวจสอบการบริหารงานการเงินของ อบต. และได้ตรวจพบว่าไม่พบหลักฐานเอกสารการเบิกจ่ายเงินงบประมาณจึงได้รู้ว่าเงินที่มีการเบิกจ่ายไปนั้น ไม่มีฎีกาการเบิกจ่ายเงินแต่อย่างใด โดยเอกสารไม่ได้หายแต่ว่าไม่มีเอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงิน มีแต่เช็คเท่านั้นที่เอาไปเบิกเงินแต่ไม่มีเอกสารประกอบการเบิกจ่ายต่างๆ ขณะนี้นายก อบต. กำลังตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและได้ให้พนักงานจ้างคนดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนเนื่องจากขาดงานเกินกำหนด

“ส่วนเรื่องการทุจริตการยักยอกเงินนั้นยังอยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวนซึ่งเรื่องนี้ทาง สตง. จะได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่ามีการนำเอาเอกสารการเงินออกไปหรือไม่นั้น เรื่องนี้ตนไม่ทราบแต่อย่างใด” ปลัด อบต. กล่าว

ทางด้าน ผอ.กองคลัง อบต. ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า เรื่องนี้ทาง สตง.ได้เข้ามาตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินของ อบต. ซึ่งทาง สตง. ได้แจ้งว่าผู้ก่อเหตุเอาสเตตเมนต์ปลอมมาทำงาน เพราะว่าดูแล้วไม่ถูกต้อง ซึ่งสเตตเมนต์ปลอมนี้ตนได้สอบถามแล้วแจ้งว่านำเอามาจากธนาคาร ส่วนที่แจ้งว่าเอกสารการเบิกจ่ายเงินต่างๆ หายไปนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะไม่พบเอกสารฎีกายอดจำนวนเงินที่หายไปแต่อย่างใด ซึ่งเอกสารฎีกาต่างๆ ที่หายไปนั้นผู้ก่อเหตุเป็นคนเก็บรักษาดูแลเอาไว้.