เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดกรณีพิพาทระหว่าง นางรำกลุ่มหนึ่งกับพระสงฆ์ ภายหลังมีการโพสต์เฟซบุ๊กกันไปมา โดยฝ่ายพระครูรูปหนึ่ง โพสต์รูปกลุ่มนางรำ 7 คน ในงานพิธีแห่งหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า “นางฟ้านางสวรรค์สภาพนี้ฉันขอตกนรกตลอดกาล” ต่อมาก็มีผู้โพสต์ตอบกลับ และนำมาแชร์ข้อความว่า “ดูหมิ่นศักศรีนางรำมากค่ะ ลูกหลานรำถวายด้วยใจที่ศรัทธา กรุณาโพสต์ ให้เหมาะสมด้วยค่ะ ว่าสมควรหรือเปล่า ฝากให้คิด เป็นถึงระดับพระครู” และ “เป็นพระ ธรรมะไม่ได้ช่วยอะไร มันเป็นการดูถูกและบูลลี่ ถึงจะลบโพสต์หนีไปแล้ว ก็ควรมาโพสต์ขอโทษด้วยนะคะ”, “ไม่สมควรอย่างยิ่งค่ะ เป็นพระเป็นเจ้า จัดหนักๆ เลยพี่จ้อ ให้กำลังใจแม่คะ สู้เพื่อความถูกต้อง เพื่อศักดิ์ศรี ของนางรำ” รวมถึงมีกลุ่มสาวประเภทสองโพสต์ข้อความระบุว่า “พรุ่งนี้ (12 มี.ค) นัดรวมตัวกันนะ บรรดาเพื่อนๆ สาวสองทั้งหลาย .. บ่ายโมงตรง ที่ อบต.ท่าสว่าง…ไปวัดกัน”
วันนี้ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าเป็นวัดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อเดินทางไปถึงพบนายพุศตม์ ขอดเมชัย ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ และพระครูปลัดรูปที่โพสต์รูปนางรำ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว กำลังพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยพระครูปลัด เจ้าอาวาสวัดรูปดังกล่าว เป็นเจ้าของเฟซบุ๊กที่ใช้โพสต์ เป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง ภายหลังมีการกระแสว่ากลุ่มสาวประเภทสองมีการนัดรวมตัวกันมาวันนี้ ทำให้ทาง นายพุศตม์ ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลทำความเข้าใจดังกล่าวทันที
โดยพระครูปลัด บอกว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะกล่าวหา แค่อยากหยอกล้อเล่นเท่านั้น ไม่มีเจตนาว่าร้ายอะไร แต่เมื่อเข้าใจผิดก็ได้ขอโทษกับสิ่งที่โพสต์ลงไปแล้ว โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็เข้าไปขอโทษที่แชตเฟซบุ๊กส่วนตัวของสาวสองแล้ว ส่วนช่วงบ่ายๆ ที่มีกระแสว่า กลุ่มสาวสองจะรวมตัวกันที่ อบต.ท่าสว่าง ก่อนจะเดินทางมาที่วัดนั้น พระครูปลัด กล่าวว่า ตนติดกิจนิมนต์ต่างอำเภอ ไม่สามารถอยู่พบปะได้ แต่จะมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนให้การต้อนรับและประสานทำความเข้าใจให้กับกลุ่มผู้เสียหาย
พระครูปลัด กล่าวอีกว่า ภาพที่โพสต์ออกไปเป็นงานพระราชทานเพลิงศพพระครู บ้านอาม็อง ต.ท่าส่วง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 67 ซึ่งตนได้นำมาโพสต์เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 67 ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะคิดว่าโพสต์ที่เขียนเป็นการหยอกล้อเหย้าแหย่กัน ซึ่งอาจเป็นการเข้าใจผิดเกิดขึ้น ถ้าผิดตนก็โพสต์ขอโทษ ขออภัย โดยตนนั้นไม่รู้จริงๆ และก็ได้ส่งข้อความไปทางแชตเฟซบุ๊กส่วนตัวของนางรำแล้ว 2 คน เพื่อบอกขอโทษ แต่ทางนางรำก็ยังไม่เปิดอ่านตอบกลับมา ตนจึงอยากบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ และอยากขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีเจตนาไม่ดี
นายพุศตม์ กล่าวว่า ที่มาวันนี้จะมาถามเรื่องราวเป็นมายังไง ที่พอทราบว่าทางพระครูปลัด ได้โพสต์ข้อความว่ากลุ่มนางรำ ซึ่งเป็นสาวสอง แต่จากการสอบถามพระครูปลัดบอกว่า เป็นเพียงการหยอกล้อกันในเฟซบุ๊ก แต่ทำให้สาวสองนั้นอาจจะเข้าใจผิดกัน โดยพระครูก็ได้โพสต์ข้อความขอโทษไปแล้ว ส่วนเรื่องสาวสองจะยอมหรือไม่ยอมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด แค่มาพูดคุยในการแก้ปัญหาถึงเรื่องดังกล่าวเท่านั้น แต่ก็มีความเห็นว่าไม่เหมาะไม่สมควร จึงอยากให้แก้ไข และการโพสต์ลงสื่อโซเชียลต่างๆ ควรใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้น
ส่วนทางด้านนางรำทั้ง 7 คน ทางผู้สื่อข่าวติดต่อไปสอบถามแล้ว เบื้องต้นเล่าว่า วันนี้ช่วง 14.00 น. พวกตนกลุ่มนางรำ และเพื่อนๆ สาวสองจะรวมตัวกันที่ อบต.ท่าสว่าง อ.เมืองสุรินทร์ ก่อนจะพากันไปที่วัดดังกล่าว ตามกำหนดการเดิม
