เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 67 ที่ห้องประชุม 202 ชั้น 2 อาคารจามจุรี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ (สนจ.) จัดงานแถลงข่าวโค้งสุดท้าย การแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นประเภททีมมาตรฐานสากล การแข่งขันกอล์ฟ “พระเกี้ยวทองคำ” ครั้งที่ 12 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 มี.ค. 67 ที่สนามกอล์ฟลำลูกกาคันทรีคลับ จ.ปทุมธานี

ดร.ยุทธพงศ์ ทิพย์วงศ์ ประธานแผนกกีฬากอล์ฟ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฯ กรรมการจัดการแข่งขันกอล์ฟ “พระเกี้ยวทองคำ” ครั้งที่ 12 กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นรายการนี้ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานของกีฬากอล์ฟในระดับสากล ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมของการแข่งขันในทุกๆ ด้าน ทั้งบุคลากรผู้ควบคุมกฎกติกาการแข่งขัน, โปรแกรมอัปเดตผลคะแนนแบบออนไลน์ และเพิ่ม Face Book Live เพื่อเพิ่มช่องทางในการติดตามผลการแข่งขันได้รวดเร็วขึ้น รวมทั้งเรื่องของสนามแข่งขัน ที่ได้ระดับมาตรฐานของมืออาชีพ โดยเราเลือกสนามกอล์ฟลำลูกกาคันทรีคลับ จ.ปทุมธานี เหมือนเช่นในทุกครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งเพื่อให้เกิดความเท่าเที่ยมสำหรับ 12 ทีม ที่เข้าร่วมแข่งขัน ทางสนามยังเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟทุกคนสามารถเข้าฝึกซ้อมได้ตั้งเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ก่อนวันแข่งขันจริงระหว่างวันที่ 23-24 มี.ค. 67 นี้

“สำหรับถ้วยรางวัลของทีมที่ชนะเลิศนั้น ทางสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจาก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 12 ทางสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ได้ขอพระราชทานถ้วยรางวัลจาก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ อีกทั้งยังนับเป็นความภาคภูมิใจอันสูงสุดของทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันอีกด้วย”

ขณะที่ นายวิชิต บัณฑุวงศ์ ผู้อำนวยการแข่งขัน กล่าวว่า การแข่งขันกอล์ฟ “พระเกี่ยวทองคำ” ครั้งที่ 12 มีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 12 ทีม ประกอบด้วย ทีมราชนาวี (RTN) แชมป์เก่าจากครั้งที่ 11, ทีมสมาพันธ์สมาคมศิษย์เก่าคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย (CGA), ทีมสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น (KKA), ทีมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT), ทีมสมาคมราชกรีฑาสโมสร (RBSC), สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ (CUAA)

ทีมสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ (OV), ทีมชมรมกอล์ฟสมาคมชาวญี่ปุ่น (JAGC), ทีมสมาคมธรรมศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ (TU), ทีมบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) (PTT), ทีมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และทีมกองทัพอากาศ (RTAF)

“ขณะนี้แต่ละทีมมีความพร้อมทั้งในด้านร่างกายและทักษะการเล่นเกือบ 100% เนื่องจากแต่ละทีมมีการฝึกซ้อมกันอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งในด้านกำลังใจของผู้เล่นแต่ละคนในทีมก็มีกำลังใจที่เต็มเปี่ยม จึงกล่าวได้ว่า การแข่งขันครั้งนี้น่าจะเป็นการแข่งขันที่สนุกและน่าจับตามอง และน่ารอคอยสำหรับผู้ที่ชื่นชมกีฬากอล์ฟทุกท่าน โดยท่านสามารถเข้าชมการแข่งขันโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด”

นายวิชิต บัณฑุวงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องของกฎและกติกาการแข่งขันในครั้งนี้แต่ละทีมจะส่งนักกอล์ฟได้ 12 คน แข่งขัน 2 วัน ลงแข่งขันวันละ 8 คน วันแรกเป็นการแข่งขันแบบคู่ โฟร์ซัม และโฟร์บอล อย่างละ 9 หลุม ส่วนวันที่สอง แข่งขันแบบบุคคล นับคะแนนแบบสโตรกเพลย์ โดยคิดแต้มรวมจากนักกอล์ฟทั้ง 8 คน แต้มของนักกอล์ฟคิดจากกรอสสกอร์ คือ ไม่นำแต้มต่อมาคิดผลคะแนนรวมแต้มของทั้งสองวัน เป็นการตัดสินแพ้ชนะ ซึ่งกฎกติกานี้ นับเป็นกฎกติกาที่ได้มาตรฐาน และได้รับการยอมรับในการแข่งขันกอล์ฟระดับสากลด้วย และเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ก่อนการแข่งขัน เราจะมีการจับสลากเพื่อประกาศผลจับคู่ 12 ทีม ที่เข้าแข่งขัน และเวลาทีออฟของแต่ละคู่

ดร.ยุทธพงศ์ ทิพย์วงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในทุกครั้งของการแข่งขันกอล์ฟ “พระเกี้ยวทองคำ” เมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขัน ทางคณะผู้จัดการแข่งขันฯ จะนำรายได้ส่วนหนึ่งขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยต่อไป

ทางด้าน คุณกนกพร รอดรุ่งเรือง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนการแข่งขัน กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่มีส่วนส่งเสริมกอล์ฟในระดับสมัครเล่น ให้ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันกอล์ฟ “พระเกี้ยวทองคำ” ที่นับว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดการแข่งขันกอล์ฟประเภททีมสมัครเล่นที่ได้มาตรฐานระดับสากล.