เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจนภพ จบกระบวนวรรณ นักจดหมายเหตุ และนักวิชาการเพลงไทยลูกทุ่ง โพสต์เฟซบุ๊กว่า ด่วนสุดๆ…ด่วนจนช็อกชาไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจดเท้าเลยครับ พี่น้องพ่อแม่มิตรรักแฟนเพลงที่รักและเคารพยิ่ง ผมได้รับข่าวสารจาก พี่เปี๊ยก นพดล แจ้งมาว่า ฅรูฉลอง ภู่สว่าง อายุ 83-84 ปี ป่วยโรคมะเร็ง จากไปอย่างสงบที่บ้าน อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งศพสวดที่บ้านนะครับ มิใช่ที่วัด บ้านเลขที่ 111/1 หมู่ 1 ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่

ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เปลี่ยนแผนกะทันหัน เดิมที วันนี้ รายการข้าวเกรียบเพลงเก่า/เสียงศิลปิน ผมวางเอาไว้แล้วว่าจะจัดอย่างไร ทุกอย่างยกเลิกทันทีเมื่อได้รับทราบข่าวนี้

ข้าวเกรียบเพลงเก่า/เสียงศิลปิน ของ เจนภพ จบกระบวนวรรณ ขอกราบแทบเท้า ปราชญ์ศิลปินชาวบ้าน – ราชาเพลงต่อว่าต่อขานผู้หญิง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ครับ – บรมฅรูฉลอง ภู่สว่าง ฅนปิดทองหลังพระที่สมถะที่สุด เรียบง่ายที่สุด และ ไม่ง้อรางวัลเกียรติยศอย่าง ศิลปินแห่งชาติ เพราะ ชาติ มัวมะงุมมะงาหราจนฅรูบาอาจารย์ระดับปราชญ์ของแผ่นดินสิ้นใจไปจนแทบจะหมดวงการแล้ว ชาติ ก็ยังมองไม่เห็น ยังไม่ตระหนักในคุณค่าที่แต่ละท่านได้สร้างสรรค์งานมาเป็นเวลาช้านาน

ท่านผู้รักเพลงลูกทุ่งทุกท่านครับ ท่านรู้จัก ฅรูฉลอง ภู่สว่าง ไหมครับ? ท่านทราบมั้ยว่าผลงานเพลงของท่านมีเพลงอะไรบ้าง? ถ้าท่านทราบอย่าช้าเลยครับ รีบช่วยกันแนะนำผลงานเพลงของท่านที่ท่านประพันธ์เอาไว้กล่อมใจกล่อมแผ่นดินชนบทไทยให้เรืองรองผ่องผุดมาจนถึงทุกวันนี้ แล้วรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ บ่าย 2 โมงวันนี้ เราจะมาช่วยกัน คืนบรมฅรูฉลอง ภู่สว่าง ให้ท่านไปอยู่ในภพภูมิที่เหมาะควร ด้วยการฟังเพลงจากลายมือของท่านทั้งรายการ อย่าพลาดติดตามนะครับ ฉลอง ภู่สว่าง ตายแล้ว!!!!! ฅรูของฅนลูกทุ่งจากไปอีก ๑ ท่านแล้วครับ

สำหรับครู ฉลอง ภู่สว่าง เป็นคนเขียนเพลงลูกทุ่งที่เก่งที่สุดในวงการคนหนึ่งครูฉลองจะเก่งมากในเรื่องของการประชดผู้หญิงแดกดันผู้ชายโดยเอาบรรยากาศของบ้านเมืองมาใส่ทำให้ผู้ฟังนั้นฟังแล้วรู้สึกว่าเรื่องราวของคนในเพลงนั้นเป็นเรื่องจริงขึ้นมาก็อย่างเพลง ” ปูไข่ไก่หลง” ที่ครูฉลองเขียนให้ ชายธง ทรงพล ร้อง “ช่างเถอะคนงาม ขอปล่อยตาม ตามวาสนา พี่ไม่มีปริญญาขวัญตามองหน้าทำเมิน ลืมได้ ลืมไป ลืมไปลืมได้ก็เชิญ พี่จนคนไร้เงิน เดินย่ำต๊อกน้องบอกว่าโซ..” นอกจากเพลงนี้ยังมี “ไก่นาตาฟาง” จีระพันธ์ วีระพงษ์ “คนดังลืมหลังควาย” (อันนี้พุ่มพวงร้อง) “คุณนายโรงแรม” ที่ร้องโดย ระพิน ภูไท

ครูฉลอง ภู่สว่างนั้นเป็นคนที่มีสัมผัสในทางโปรดิวเซอร์ที่สูงมากว่ากันว่าถ้าเทียบกันก็ต้องขนาด เต๋อ เรวัติ พุทธินันท์ เพราะสามารถปั้นกระเป๋ารถเมล์อย่าง จีระพันธ์ วีระพงษ์ ให้โด่งดังได้จากเพลง “ไก่นาตาฟาง” สร้างให้เด็กอู่ซ่อมรถอย่าง ศรชัย เมฆวิเชียร ขึ้นมาเป็นนักร้องดังเช่นเดียวกับทำให้ ระพิน ภูไท ดังได้อีกเหมือนกันโดยที่ว่ากันว่าระพินไม่มีแววอะไรเลยนอกจากเมาไปวันๆ

ในระยะที่ครูฉลอง ภู่สว่าง มีชื่อเสียงได้มีคนไปมาหาสู่มากบางคนมาขอความรู้จากเพลงบางคนมาฝึกร้องเพลงโดยเริ่มจากเลียนแบบนักร้องที่มีชื่อเสียงจนมีเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองนักร้องที่มีชื่อเสียงที่มาหาครูฉลอง ภู่สว่าง อยู่เสมอคือ ศรชัย เมฆวิเชียร, สดใส รุ่งโพธิ์ทอง สุนารี ราชสีมา แจ๊ค ธนพล ครูฉลอง ภู่สว่าง แต่งเพลง “ดื่มให้ลืมแฟน” บางคนมาถามครูฉลองว่าการแต่งเพลงเริ่มเขียนอะไรก่อน ครูฉลองเล่าว่าการแต่งเพลงเหมือนละครที่ยาวมากที่เกิดขึ้นมาไม่รู้กี่ปีเรานำเรื่องมาย่อจนจบตอนจบเราจะให้จบแบบไหนเพลงแต่ละเพลงเหมือนละครเรื่องหนึ่งเรานำมาสรุปให้เหลือนิดเดียวบางเพลงให้จบพร้อมชื่อเพลงให้ได้เช่น เพลง “จำกันบ่ได้ก๋า” จะแต่งเพลงใดให้ใครร้องต้องศึกษาบุคลิกนักร้องก่อนเช่น นันทิดา แก้วบัวสาย ไปชนะการประกวดการร้องเพลงที่ต่างประเทศ เพชรา เชาวราษฎร์ ชักชวนมาแสดงภาพยนตร์และเชิญครูฉลอง ภู่สว่าง ไปเขียนเพลงประกอบภาพยนตร์ให้ได้ทั้งหมดหลังจากแต่งเพลงวันที่จะบันทึกแผ่นเสียงครูฉลองจะไปร้องเพลงที่ครูแต่งให้ฟังก่อนทั้งการเอื้อนจังหวะดนตรี เคาะจังหวะไปให้ทำเข้าอินโทรไปให้หมดร้องเสร็จจะรับอย่างไร

ในปี พ.ศ. 2523 ครูฉลองแต่งเพลงให้ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ร้องและปี 2525 2526 2527 ห้างอโซน่ามาขอซื้อลิขสิทธิ์ให้พุ่มพวงร้องบันทึกเทปวางจำหน่ายร้องเพลงคู่กันเพลงหนึ่งเขียนให้ พุ่มพวง ร้องอีกเพลงหนึ่งเขียนให้นักร้องชายร้องเนื้อเพลงขึ้นต้นว่า… “นึกไว้ แล้ว ๆ เชียว ว่า… นึก….ทุกอย่างคนงาม ๆ สักวันก็ลืมด้ามเคียว” ส่วนเพลงทำนองเดียวกับเพลงนี้ให้ชื่อว่า คนดังลืมหลังควาย บันทึกแล้วดังเปรี้ยง

ส่วนประวัติ ครูฉลอง เกิดเมื่อ พ.ศ. 2481 ที่จังหวัดสมุทรสาคร บิดาชื่อ นายเหลือบ ภู่สว่าง มารดาชื่อ นางหนู ภู่สว่าง พี่น้อง 4 คน ชาย 3 คน หญิง 1 คนด้านชีวิตครอบครัวสมรสกับคุณสมบูรณ์ ภู่สว่าง มีบุตรด้วยกัน 2 คน ฐานะทางครอบครัวยากจนเรียนได้เพียงชั้น ป.3 ก็ต้องออกมาทำงานบ้านอยู่ 2 ปีจีงกลับไปเรียนจนจบชั้น ป.4 จากโรงเรียนเมืองสมุทรสาคร เป็นคนเรียนเก่งแต่ต้องออกมารับจ้างเดินเรือขนส่งเกลือไปขายที่กรุงเทพฯ