ฮัลโหลๆ แฟนๆ ที่รักของอิชั้น “ชาวบ้าน 1/4 แยก 8” ผู้ขนข้าวขนของมาจับจองห้องใหม่ในบ้านหลังนี้ ขอทักทายทุกคนอีกรอบจ้ะ สัปดาห์นี้ก็มาเจอกับอิชั้นเช่นเคย ไม่อยากจะเมาท์น้อยแต่อยากเมาท์เยอะ และเชื่อว่าหลายคนสนใจแน่นอน เพราะเราจะชวนมาเมาท์เรื่องสุขภาพกัน

งั้นขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน สำหรับประเด็นที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ต่างสนใจกันอย่างมากมาย สำหรับเรื่องราวของนักร้องดัง โจนัส แอนเดอร์สัน นักร้องลูกทุ่งต่างชาติหัวใจไทย ที่ได้ออกมาเล่าเหตุการณ์ช่วงที่เกิดความผิดปกติของร่างกายว่า ขณะออกกำลังกายในห้องออกกำลังกายของหมู่บ้านตามปกติ อยู่ดีๆ รู้สึกเจ็บหน้าอก อ่อนเพลีย วูบจะเป็นลม ตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นเพราะท้องอืด เจ็บท้อง แต่อาการมันเริ่มแย่ลง ก็เลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน แพทย์แจ้งผลวินิจฉัยว่าเส้นโลหิตอุดตันต้องทำบอลลูนด่วน เป็นเรื่องความเป็นความตาย หัวใจวายเฉียบพลัน อยู่ได้ไม่นานถ้าไม่รักษาเพราะมันเริ่มวิกฤติแล้ว ตอนนั้นตกใจและไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะครอบครัวไม่มีใครเป็นโรคหัวใจเลย ทำเอาหลายคนตกใจหนักมากและบอกว่าห่วงโจนัสกันรัวๆ

ขณะที่ล่าสุด โจนัส แอนเดอร์สัน ได้ตัดสินใจตั้งโต๊ะแถลงข่าวอีกรอบที่โรงพยาบาลดัง พร้อมเล่าอาการตอนนี้ว่า “จริงๆ ปีที่แล้วไปตรวจสุขภาพประจำปีพบว่าไขมันในเลือดสูงขึ้นนิดหน่อย ปกติในชีวิตผมไม่เคยสูบบุหรี่เลย เรื่องดื่มมีน้อยมาก ดื่มเบาๆ ตอนอยู่กับเพื่อนในบางครั้ง ไม่เคยดื่มหนักถึงขั้นเมา และวันนี้อยากจะสะท้อนประสบการณ์ในครั้งนี้ รู้สึกเหมือนเกิดใหม่ จะหันมาดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี และอยากให้ทุกคนตระหนักรู้ถึงอาการของเรา ถ้าเกิดความผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะทุกวินาทีคือชีวิต”

จริงๆ หลายคนเห็นประเด็นของหนุ่มโจนัสแล้วก็พาให้คิดกันสองมุมเลยทีเดียว กับมุมแรกเป็นดาราแล้วออกมาพูดเรื่องนี้ทำไม ขอความเห็นใจ หรือต้องการสร้างกระแสไหม ซึ่งเรื่องดังกล่าว หนุ่มโจนัสเองก็เคยบอกว่าห้ามคนคิดไม่ได้ แต่ที่ออกมาพูดเพื่อเตือนให้คนรักษาสุขภาพเท่านั้น เพราะขนาดเขาเป็นดาราเอง ยังต้องหาทางประหยัดและไม่กล้าไปรักษาแพงๆ เลย แล้วประสาอะไรกับคนทั่วไปที่หาเช้ากินค่ำ เขาจะกล้ารักษาหรือพอมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายก็ใช้วิธีการ “อดทน” เอาแล้วกัน ไม่กล้าไปหาหมอ ซึ่งมันผิดและร้ายแรงต่อชีวิตมากๆ

โจนัสถึงกับเตือนว่ามันเป็นภัยใกล้ตัว เป็นความประมาทที่อาจถึงชีวิตได้ และก็ไม่รู้จะมีใครโชคดีแบบเขาไหมที่หาหมอทันเวลา ไม่งั้นเขาคงเหลือแค่ชื่อแล้ว แต่เพราะเขาให้ความสำคัญและตระหนักดีเลยออกมาพูดเตือนแฟนๆ ของเขา ในขณะที่อีกมุมหนึ่งก็มองว่าสงสารหนุ่มโจนัสมากๆ เพราะอายุคนเราก็มากขึ้นทุกวัน อยากให้ดูแลตัวเองเยอะๆ

เอาจริงๆ เรื่องการสร้างกระแส ไม่สร้างกระแส ไม่อยากให้มองแบบนี้เลย เพราะ “นาทีชีวิต” ตอนนั้นใครเจออยู่ก็คงไม่มีใครยินดีแน่นอน ก็อยากให้มองในมุมกลับแล้วกันว่า เจตนาจริงๆ ของเขาคือแค่ให้แฟนๆ ดูแลตัวเองเท่านั้น อย่าไปคิดไกล คิดซับซ้อน คิดมาก หรือคิดไปเองเลย เพราะสุดท้ายทุกอย่างก็วนมาที่เดิมว่า “เราควรรักตัวเองและสุขภาพมากๆ เพราะต่อให้ทำงานหาเงินมากแค่ไหน แต่ถ้าสุขภาพแย่ก็กินเงินเราไปเท่านั้น เหมือนคำพูดที่ว่า การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆ” ยังไงก็ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ