สิงห์อาสา โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สร้างมุ้งสู้ฝุ่น ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ฝุ่น PM 2.5 หนาแน่น พร้อมส่งต่อไอเดียนวัตกรรมมุ้งสู้ฝุ่น ที่มีต้นทุนต่ำและประดิษฐ์ง่ายเพื่อให้ชาวบ้านนำไปประยุกต์ใช้ในบ้านของตัวเอง รวมถึงการส่งมอบห้องเรียนปลอดฝุ่นต่อเนื่องให้กับโรงเรียนต่างๆ ในภาคเหนือ ภายใต้โครงการ “สิงห์อาสาสู้ไฟป่า” ที่ทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6 ทั้งนี้ ยังร่วมกับคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลงพื้นที่ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สิงห์อาสา ตรวจสุขภาพประชาชนภาคเหนือที่อยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูง ในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เพื่อบรรเทาปัญหาสุขภาพของประชาชนที่เกิดจากฝุ่นพิษ PM 2.5

ปัจจุบันสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ เริ่มสูงขึ้นและเกินค่ามาตรฐาน เพราะสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือน มี.ค. – เม.ย. ของทุกปี มีแนวโน้มเกิดขึ้นรุนแรงที่สุด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 ที่จะส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนเป็นวงกว้าง สิงห์อาสา จึงร่วมมือกับ คณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต่อเนื่องเป็นปีที่3 สร้างห้องเรียนปลอดฝุ่นมอบให้กับโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยง PM 2.5 ซึ่งสร้างมาแล้วกว่า 10 ห้อง กระจายในหลายจังหวัดภาคเหนือ และปีนี้เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนได้มากยิ่งขึ้น จึงนำนวัตกรรม มุ้งสู้ฝุ่น ที่พัฒนาต่อยอดมาจากห้องปลอดฝุ่น เป็นการดัดแปลงสำหรับพื้นที่ห่างไกลที่แม้ไม่มีห้องแอร์หรือห้องที่ปิดสนิท โดยชาวบ้านที่มาอบรมสามารถศึกษาวิธีการทำและนำกลับไปประยุกต์ใช้ที่บ้านได้ โดยมีค่าใช้จ่ายเพียงหลักพันบาท พร้อมนำร่องส่งมอบมุ้งสู้ฝุ่นเพื่อผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง ที่ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังได้สร้างห้องเรียนปลอดฝุ่นให้กับเด็กนักเรียนที่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา และเพื่อให้การดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าอย่างครบวงจร สิงห์อาสา ยังร่วมกับคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สิงห์อาสา ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพประชาชนภาคเหนือที่อยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูง เช่น การตรวจสมรรถภาพปอด การเอ็กซ์เรย์ปอด การตรวจเลือด เป็นต้น

คุณอรรถสิทธิ์ พรหมสุข ผู้จัดการฝ่ายงานกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า “หนึ่งในปัญหาสำคัญของภาคเหนือ คือ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนอย่างมาก โดยเฉพาะจ.เชียงใหม่ ประสบปัญหาไฟป่ามากที่สุด ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดฝุ่น PM 2.5 โดยในปีนี้สิงห์อาสาได้ร่วมกับคณะทำงานวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ม.เชียงใหม่ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อสร้างห้องเรียนปลอดฝุ่นให้กับเด็กนักเรียนและต่อยอดพัฒนาสร้างมุ้งสู้ฝุ่นเพื่อผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงกระจายไปในหลายจังหวัดภาคเหนือ ทั้งนี้ ยังจัดตั้งศูนย์สนับสนุนเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ทั้งเสบียงน้ำดื่มและอาหาร พร้อมทาน(ข้าวรีทอร์ท) เพื่อคอยติดตามสถานการณ์ไฟป่าและคอยสนับสนุนช่วยเหลือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่าอีกด้วย”

ผศ.ว่าน วิริยา อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ ม.เชียงใหม่ และคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ม.เชียงใหม่ กล่าวว่า “ตอนนี้ค่าฝุ่นเริ่มสูงขึ้นและเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ ตลอดระยะเวลาที่ร่วมงานกับทางสิงห์อาสา มีการจัดการอบรมเรื่องฝุ่นให้กับชาวบ้านในพื้นที่ แนะแนวทางป้องกัน และทำห้องเรียนปลอดฝุ่น ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่เราได้มาตรฐาน 3 ดาว จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเกณฑ์ เช่น ภายในห้องปลอดฝุ่นต้องมีค่า PM 2.5 ไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม. หรือน้อยกว่าค่า PM 2.5 ในอากาศนอกห้อง 50% เป็นต้น โดยในครั้งนี้เรายังนำนวัตกรรมมุ้งสู้ฝุ่น ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจากห้องปลอดฝุ่น เป็นการดัดแปลงสำหรับพื้นที่ห่างไกลที่แม้ไม่มีห้องแอร์หรือห้องที่ปิดสนิท แต่ก็ได้อากาศบริสุทธิ์ตอนนอน กระบวนการทำงานคล้ายกับห้องปลอดฝุ่น คือมีเครื่องฟอกอยู่ข้างนอกแล้วกรองอากาศใส่เข้าไปในมุ้งผ้าฝ้าย อากาศในนั้นก็จะเป็นอากาศบริสุทธิ์ กันฝุ่นได้ 70-80% และใช้ได้ในบ้านทุกรูปแบบ ส่วนตัวเครื่องกรองอากาศ เราใช้กระดาษรียูส 100% มาทำ ซึ่งแข็งแรงและกรองได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีค่าใช้จ่ายไม่เกินหนึ่งพันบาท ที่สำคัญสามารถประกอบใช้งานเองได้และคนในชุมชนยังเข้าถึงง่ายด้วย”

สิงห์อาสา โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาสุขภาพของประชาชน ที่ต้องเผชิญกับฝุ่นพิษ PM 2.5 มาอย่างต่อเนื่องและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งต้นตอหลักของฝุ่นพิษ PM 2.5 มาจากไฟป่า ถึงแม้ว่าปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือของเราจะลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่ไฟป่าที่เกิดขึ้นจากประเทศเพื่อนบ้านและคนบางกลุ่มก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนคือต้องหาวิธีลดการสูดดมฝุ่นพิษ PM 2.5 เพื่อบรรเทาปัญหาสุขภาพของพี่น้องประชาชน ซึ่งทางบุญรอดฯ ได้ตระหนักถึงความเดือนร้อนจึงพยายามร่วมมือกับเครือข่ายนักวิชาการและคณาจารย์เพื่อคิดค้นวิธีการและนวัตกรรมใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการเผชิญกับ ฝุ่น PM 2.5 ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้นอย่างยั่งยืน