ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ม.เกษมบัณฑิต รายงานผลการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ความหวังและโอกาสของทีมชาติไทย” ซึ่งในการสำรวจดังกล่าว สืบเนื่องจากการที่นักฟุตบอลทีมชาติไทย จะลงสนามพบกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเซีย กลุ่ม C นัดที่ 3 และ 4 วันที่ 21 ม.ค. 67 และวันที่ 26 มี.ค. 67 ตามลำดับ

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสะท้อนมุมมองตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมของแฟนกีฬา ที่มีต่อความหวังและโอกาสของทีมชาติไทย KBU SPORT POLL โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ร่วมกับหลักสูตรการบริหารนวัตกรรมการสื่อสาร คณะนิเทศศาสตร์ ม.เกษมบัณฑิต จึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง “ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ความหวัง และโอกาสของทีมชาติไทย”

โดยภาพรวมพบว่า ด้านความหวังและโอกาสในการเก็บชัยชนะเหนือเกาหลีใต้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 28.90 ไม่แน่ใจ รองลงมาร้อยละ 22.06 มีโอกาสค่อนข้างมาก ร้อยละ 18.00 มีโอกาสค่อนข้างน้อย ร้อยละ 14.50 มีโอกาสมาก ร้อยละ 12.18 มีโอกาสน้อย และร้อยละ 4.36 ไม่มีโอกาสเลย

ด้านความคาดหวังและโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ส่วนใหญ่ร้อยละ 29.30 ไม่แน่ใจ รองลงมาร้อยละ 24.90 มีโอกาสค่อนข้างน้อย ร้อยละ 20.58 มีโอกาสน้อย ร้อยละ 16.10 มีโอกาสค่อนข้างมาก ร้อยละ 6.80 มีโอกาสมาก และร้อยละ 2.32 ไม่มีโอกาสเลย

ด้านปัจจัยที่นำไปสู่โอกาสและความสำเร็จ ส่วนใหญ่ร้อยละ 26.50 ศักยภาพและความสามารถของนักกีฬา รองลงมาร้อยละ 25.72 ศักยภาพความและความสามารถของหัวหน้าผู้ฝึกสอน ร้อยละ 18.46 ระยะเวลาในการเตรียมทีม ร้อยละ 12.98 แรงเชียร์จากแฟนกีฬา ร้อยละ 11.52 การสนับสนุนของสมาคมกีฬาฟุตบอล และอื่นๆ ร้อยละ 4.82

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ม.เกษมบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ที่ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ ทั้ง 2 นัดนั้น หากพิจารณาถึงการมีส่วนร่วมหรือการสะท้อนมุมมองในมิติที่เกี่ยวข้องของแฟนกีฬาจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ ไม่แน่ใจว่าทัพนักเตะไทย จะชนะเกาหลีใต้ และผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้หรือไม่ ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะด้วยศักยภาพและดีกรีหรืออันดับโลกของเกาหลีใต้เหนือ กว่านักเตะไทยก็เป็นได้

ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาถึงผลงานของทีมชาติไทย ผนวกกับฝีมือของ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ที่ได้ฝากผลงานไว้ในศึกเอเชียนคัพ 2023 กลับพบว่ากลุ่มตัวอย่างหรือแฟนกีฬาก็ยังเชื่อมั่นในระดับค่อนข้างมากว่าทีมชาติไทย ภายใต้ศักยภาพและความสามารถของนักกีฬาตลอดจนผลงานของหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมช้างศึก ก็มีโอกาสเก็บชัยเหนือคู่แข่งได้เช่นกัน เหนืออื่นใดการที่นักเตะทีมชาติไทย พบกับโสมขาวเกาหลีใต้ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการประกาศศักดาเพื่อแย่งการเข้ารอบกันแล้ว ในทางกลับกันก็จะพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของหัวหน้าโค้ชจากแดนปลาดิบว่าฝีมือการทำทีมอยู่ในระดับที่จะส่งผลให้คอบอลไทยคาดหวังและมีความสุขกันมากน้อยแค่ไหนอีกทางหนึ่งด้วย