เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ระดับน้ำเหนือสันอ่างลดลงอย่างรวดเร็ว จากเมื่อ 3 วันก่อน หลังจากที่มีน้ำเต็มอ่างจนเกินความจุ 164% ล่าสุดมวลน้ำมหาศาลถูกระบายลงด้านล่าง จนระดับน้ำลดลงจากแนวสันอ่างกว่า 3 เมตร มองเห็นแนวสันดอนดินเหนืออ่างชัดเจน แต่ยังมีน้ำจำนวนมากไหลผ่านช่องโหว่ของคันดินที่แตกชำรุดกว้าง 40 เมตร ติดกับประตูระบายน้ำคอนกรีต

ทั้งนี้ปริมาณน้ำในอ่างลดลงอย่างฮวบฮาบน่าตกใจ เหลือน้ำวัดได้แค่ 6.8 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 24% ของความจุ 27.7 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือลดลงจากจุดที่เคยสูงสุดมากกว่า 140% ซึ่งปริมาณน้ำเคยแตะระดับสูงสุด 45.4 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 164% เมื่อวันที่ 27 กันยายน หรือเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา และมีมวลน้ำระบายลงด้านล่างแล้ว 150 ล้านลูกบาศก์เมตร มวลน้ำเหล่านี้กำลังทะลักท่วมเขต อ.โนนไทย อ.โนนสูง และกำลังไหลลงพื้นที่ อ.พิมาย

ขณะเดียวกัน คนงานผู้รับเหมาเร่งเดินเครื่องจักรหนักซ่อมแซมเพื่อปิดช่องโหว่ กำหนดเป้าหมายแล้วเสร็จภายใน 7 วัน เพื่อวางแผนกักเก็บน้ำไว้ในอ่างให้เหลืออยู่ 50% แต่ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ประเมินว่า หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม จะมีมวลน้ำไหลมาจากพื้นที่ด้านบนมาเติมในอ่างอีกกว่า 60-70 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมวลน้ำทั้งหมดนี้จะค่อย ๆ ระบายลงด้านล่าง จนกว่าจะมีการซ่อมแซมช่องโหว่แล้วเสร็จ

นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผอ.โครงการชลประทานนครราชสีมา เปิดเผยว่า ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำลำเชียงไกรหลากท่วม แต่เป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ มีมวลน้ำจำนวนมากเกินศักยภาพของอ่างจะรับไหว หลังจากนี้จะเร่งซ่อมแซมปิดช่องโหว่คันดินให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่คาดการณ์ว่า จะมีพายุฝนตกลงมาซ้ำอีก.

DCIM\100MEDIA\DJI_0012.JPG