แต่ด้วยทางเลือกของฟิล์มติดรถที่มีอยู่มากมาย บทความนี้จึงจะพามาแนะนำวิธีเลือกฟิล์มติดรถยนต์ให้สามารถเลือกใช้ได้ตรงกับความต้องการ

ความสำคัญของฟิล์มติดรถยนต์

  • ป้องกันความร้อนจากแสงแดด: ฟิล์มกรองแสงจะช่วยลดอุณหภูมิภายในรถ ทำให้ห้องโดยสารเย็นสบาย ประหยัดน้ำมัน และลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
  • ป้องกันรังสียูวี: ฟิล์มกรองแสงสามารถป้องกันรังสียูวีได้ถึง 99% ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง และป้องกันรอยเหี่ยวย่น
  • รักษาความเป็นส่วนตัว: ฟิล์มกรองแสงช่วยให้มองเห็นจากด้านนอกได้ยาก เพิ่มความเป็นส่วนตัวภายในรถ
  • เพิ่มความปลอดภัย: ฟิล์มกรองแสงช่วยลดแสงจ้าจากภายนอก ทำให้ขับขี่ได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

วิธีเลือกฟิล์มติดรถยนต์

  • ประเภทของฟิล์ม ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรรู้ก่อนศึกษาวิธีเลือกฟิล์มติดรถยนต์ เนื่องจากฟิล์มกรองแสงมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและราคาแตกต่างกัน การรู้จักประเภทฟิล์มจึงถือเป็นหนึ่งในวิธีเลือกฟิล์มติดรถยนต์ที่ทำให้สามารถเลือกฟิล์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    – ฟิล์มกรองแสงแบบย้อมสี: เป็นฟิล์มราคาถูก มีหลายเฉดสี แต่ประสิทธิภาพในการกันความร้อนและรังสียูวีไม่สูง
    – ฟิล์มกรองแสงแบบเคลือบโลหะ: มีประสิทธิภาพในการกันความร้อนสูง แต่ราคาค่อนข้างแพง
    – ฟิล์มกรองแสงแบบเซรามิก: มีประสิทธิภาพในการกันความร้อนสูง ตัดแสงสะท้อน และรักษาความเป็นส่วนตัว แต่ราคาสูง
    – ฟิล์มกรองแสงแบบนาโน: มีประสิทธิภาพในการกันความร้อนสูง กันรังสียูวี และป้องกันรอยขีดข่วน แต่ราคาสูง
    – เลือกวัสดุที่มีคุณภาพ เช่น ฟิล์มติดรถยนต์ที่ทำจากวัสดุโพลิเมอร์คุณภาพสูง มีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อการเสียดสี และมีอายุการใช้งานยาวนาน
  • พิจารณาค่าการป้องกันความร้อน (Total Solar Energy Rejected: TSER) ที่เหมาะสม โดยควรเลือกฟิล์มที่มีค่า TSER สูง ช่วยสะท้อนความร้อนได้ดี แต่ก็ไม่หนาจนบดบังทัศนวิสัยมากเกินไป
  • พิจารณาค่าการส่องผ่านแสง ที่เหมาะกับการใช้งาน ซึ่งจะระบุโดย Visible Light Transmission (VLT) ฟิล์มที่มีค่า VLT ต่ำจะทึบแสงมาก เหมาะกับการต้องการความเป็นส่วนตัว แต่จะมองเห็นด้านนอกได้ไม่ชัดเจน ส่วนฟิล์มค่า VLT สูงจะโปร่งใสมากขึ้น เหมาะกับคนขับที่ต้องการมองเห็นภายนอกได้ชัดเจนกว่า
  • เลือกฟิล์มที่มีคุณสมบัติกรองรังสียูวี (UV Protection) ได้ดี เพื่อปกป้องผิวหนังและผู้โดยสารภายในรถ รวมถึงช่วยยืดอายุการใช้งานของฟิล์มให้นานขึ้นด้วย
  • สังเกตความหนาของฟิล์ม ฟิล์มที่หนาเกินไปจะความคมชัดของภาพนอกกระจกลดลง ควรเลือกฟิล์มที่มีความหนาพอเหมาะ
  • พิจารณาการรับประกันหลังการติดตั้ง ซึ่งร้านที่ดีควรให้การรับประกันอย่างน้อย 5-10 ปี จากโรงงานผู้ผลิต

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีเลือกฟิล์มติดรถยนต์มากขึ้น เพื่อเลือกฟิล์มกรองแสงที่เหมาะกับรถของคุณ