สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ว่า กองทัพฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ ว่าเรือสนับสนุน “ยูไนซาห์ เมย์ โฟร์” หรือ “ยูเอ็มโฟร์” เผชิญหน้ากับเรือตรวจการณ์ของหน่วยยามฝั่งจีน ใกล้กับแนวสันดอนโธมัสที่สอง บริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ ในทะเลจีนใต้ เมื่อช่วงเช้าของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยเรือของฟิลิปปินส์อยู่ระหว่างการนำเสบียงไปส่งให้แก่ทหารฟิลิปปินส์ ซึ่งประจำการอยู่ที่แนวสันดอนอยุนงิน


ทั้งนี้ ภาพและคลิปที่กองทัพฟิลิปปินส์เผยแพร่ แสดงให้เห็นว่า เรือของจีนขยับส่วนหัวให้เข้ามาชนกับเรือยูเอ็มโฟร์ และยังฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่เรือของฟิลิปปินส์ เพื่อขัดขวางการเดินทางและสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับตัวเรือ หลังจากนั้น เรือเดินทางกลับเข้าฝั่ง ด้วยความคุ้มครองจากเรือลาดตระเวนของกองทัพฟิลิปปินส์


ต่อมาสำนักงานยามฝั่งจีน ออกแถลงการณ์ว่า “ดำเนินการตามกฎหมาย” ต่อเรือของฟิลิปปินส์ ซึ่งรุกล้ำน่านน้ำบริเวณแนวสันดอนเหรินอ้าย ซึ่งเป็นชื่อที่จีนใช้เรียกแนวสันดอนอยุนงิน


ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนนี้ ลูกเรือ 4 คน บนเรือ “บีอาร์พี ซินดาหงัน” ของกองกำลังยามฝั่งฟิลิปปินส์ ได้รับบาดเจ็บ จากการเผชิญหน้ากับเรือของเจ้าหน้าที่ยามฝั่งจีน บริเวณแนวสันดอนโธมัสที่สอง โดยเจ้าหน้าที่ของจีน ฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่เรือของฟิลิปปินส์


อนึ่ง อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (อันคลอส) ฉบับปี 2525 ระบุว่า แต่ละประเทศบนโลกมีอำนาจอธิปไตยเหนือทรัพยากรธรรมชาติ ที่อยู่ภายในอาณาเขตไม่เกิน 200 ไมล์ทะเล หรือ 370 กิโลเมตร จากชายฝั่ง ซึ่งหมู่เกาะสแปรตลีย์อยู่ห่างจากมณฑลไห่หนาน หรือเกาะไหหลำของจีน เป็นระยะทางเกือบ 1,000 กิโลเมตร.

เครดิตภาพ : AFP