จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่เก็บเงินมาสั่งซื้อมือถือยี่ห้อดังมือสองราคา 5,000 บาท ที่โพสต์ขายทางอินสตาแกรม แต่เมื่อโอนเงินไปกลับถูกบล็อกไม่ส่งของให้ จนน้องเอเกิดอาการเครียดเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตสลด

กระทั่ง พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. แถลงผลการจับกุมขบวนการหลอกขายไอโฟน ผ่านอินสตาแกรม (ไอจี) เป็นเหตุให้เหยื่อเด็กชายวัย 14 ปี ที่ถูกหลอกเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต โดยกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่า รับจ้างเปิดบัญชีให้ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี นายทุนที่เปิดร้านค้าออนไลน์ มีผู้ติดตามประมาณ 60,000 คน​ มีพฤติกรรมชอบใช้ของแบรนด์เนมใช้ชีวิตหรูหรา ซึ่งเงินส่วนใหญ่ที่ได้มาก็มาจากการฉ้อโกงผู้อื่น จึงถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับเลขที่ 638/64 ลงวันที่ 24 ก.ย.64 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ​ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นายทุน ลุงหลู่ อายุ 55 ปี และ นางแฝง แสงทองคำ อายุ 38 ปี พ่อและแม่ของนักเรียนชั้น ม.2 ที่เป็นเหยื่อถูกหลอก และเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต กล่าวว่า วันนี้ตัวเองได้เห็นจากข่าวว่า ตำรวจได้จับตัวคนทำผิดได้แล้ว คิดว่าวิญญาณของลูกชาย คงจะนอนตายตาหลับแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ไปดูร่างทรงในหมู่บ้านบอกว่า วิญญาณของลูกชายยังคงร้องไห้เสียใจอยู่ เพราะเสียใจที่ถูกหลอก และเสียดายน้ำพักน้ำแรงของพ่อแม่ที่กว่าจะหาเงินมาซื้อโทรศัพท์ให้ได้ โดยตัวเองได้ตั้งใจซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ ที่น้องอยากได้ ราคาประมาณ 3 พันบาท ซื้อมาให้กับดวงวิญญาณของลูกชายแล้ว ทดแทนโทรศัพท์ที่น้องอยากได้แต่ถูกหลอกไป ซึ่งตัวเองหวังว่า ลูกชายคงชอบ และหมดห่วง

ผบช.ภ.5ส่งทีมร่วมล่าตัว ‘แม่ค้าโกงม.2’ เครียดจนเส้นเลือดสมองแตกตาย

ส่วนเรื่องที่ น.ส.พิยดา ฝากคำขอโทษมาถึงครอบครัวและตัวน้องนั้น ตัวเองจะขอรับคำขอโทษของ น.ส.พิยดาไว้ และขออโหสิกรรมให้ เพราะไม่อยากให้วิญญาณของลูกชายที่เสียไปมีความทุกข์ใจอีก และขอให้ น.ส.พิยดา ซึ่งอายุยังน้อย หากได้รับโทษแล้ว กลับมาสู่สังคม ก็ขอให้กลับตัวกลับใจเป็นคนดี ทำอาชีพที่สุจริตเถอะ