สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ว่ากฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของฮ่องกง ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “กฎหมายพิทักษ์ความมั่นคงแห่งชาติ” มีผลบังคับใช้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
กฎหมายดังกล่าวเป็นที่รู้จักสำหรับชาวฮ่องกงว่า “กฎหมายมาตรา 23” จากการที่คณะผู้บริหารฮ่องกงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 23 ของเบสิก ลอว์ หรือกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกง ที่ระบุว่า ฮ่องกงควรบัญญัติกฎหมายเป็นของตัวเอง เพื่อยับยั้งการกระทำการใดก็ตาม ที่เป็นการทรยศ การแยกตัว การยุยงปลุกปั่น และการโค่นล้มรัฐบาลปักกิ่ง
ทั้งนี้ สภานิติบัญญัติฮ่องกงมีมติเป็นเอกฉันท์ ในการผ่านกฎหมายดังกล่าว เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ โดยกฎหมายแบ่งฐานความผิดออกเป็น 5 ประการ ได้แก่ การก่อกบฏ การปลุกระดม การจารกรรมและการขโมยข้อมูลรัฐ การก่อวินาศกรรรมเพื่อทำลายความมั่นคง และการแทรกแซงจากภายนอก
กฎหมายกำหนดบทลงโทษสูงสุด จำคุกตลอดชีวิตสำหรับ “การก่อวินาศกรรมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ” ซึ่งรวมถึง การก่อกบฏและการปลุกระดม บทลงโทษจำคุกนานสูงสุด 20 ปี สำหรับการจารกรรม และบทลงโทษจำคุกนานสูงสุด 14 ปี เกี่ยวกับการแทรกแซงจากภายนอก
นอกจากนี้ กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของฮ่องกง ยังระบุเกี่ยวกับการปรับปรุงเนื้อหาบางส่วน ของกฎหมายต่อต้านการปลุกระดม ซึ่งบัญญัติในสมัยฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคมจักรวรรดิบริติช โดยกำหนดให้การห้ามปลุกปั่นยุยงให้เกิดความเกลียดชังต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน และระบบสังคมนิยมของจีน เป็นความผิด และมีบทลงโทษจำคุกเป็นเวลานานสูงสุด 10 ปี
นายจอห์น ลี หัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง กล่าวว่า การใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของฮ่องกง ในการบรรลุ “ภารกิจประวัติศาสตร์” ตามความเชื่อมั่นที่รัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่ง มอบให้แก่ทางการฮ่องกง แม้ฝ่ายตะวันตกวิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะสหรัฐและสหราชอาณาจักร ว่าเป็นการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของพลเมือง.
เครดิตภาพ : AFP