ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังภายในเขื่อนลำแชะ รวมถึงชาวบ้านทั่วไป ในอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา อาศัยเวลาว่างในช่วงที่น้ำภายในเขื่อนลดปริมาณลง จนทางหน่วยงานภาครัฐต้องขอความร่วมมือให้เกษตรกรลดอัตราการเลี้ยงปลาลง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสภาพน้ำภายในเขื่อน ด้วยการมานั่งตกปลาธรรมชาติที่อยู่ภายในเขื่อน ริมกระชังเลี้ยงปลาที่กำลังปล่อยว่างอยู่ เพื่อนำไปประกอบอาหารเลี้ยงครอบครัว ลดภาระค่าใช้จ่าย และจำหน่ายเป็นรายได้เสริม เนื่องจากบริเวณนี้จะเป็นสถานที่รวมตัวของปลาธรรมชาติ ที่ปกติแล้วจะมาคอยหากินอาหารปลาที่เกษตรกรใช้เลี้ยงปลากระชัง ซึ่งจะมีส่วนหนึ่งที่หลุดรอดออกจากกระชังเลี้ยงปลาเป็นประจำ ทำให้ปลาเกิดความเคยชินและมักจะออกมาหากินอยู่บริเวณนี้จำนวนมากทุกวัน ชาวบ้านจึงจะตกปลาบริเวณนี้ได้มากกว่าจุดอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะมาตกปลาบริเวณกระชัง จะต้องขออนุญาตจากเจ้าของกระชังเสียก่อน

นายสมยศ ชัยสิทธิ์ อายุ 53 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่มานั่งตกปลาริมกระชังบอกว่า ปลาที่ตกได้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นปลาตะเพียน ที่มักจะรวมตัวหากินกันอยู่เป็นฝูง ชาวบ้านก็จะใช้อาหารปลาที่เคยให้ปลากระชัง ผสมน้ำปั้นเป็นก้อนเพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อ แต่ละวันจะได้ปลากลับบ้านวันละหลายกิโลกรัม หากวันไหนอากาศเหมาะสมแดดดีลมไม่แรง ปลาก็จะกินเบ็ดถี่ และได้ปลาเป็นจำนวนมาก บางครั้งบางคนสามารถตกปลาได้มากกว่า 10 กิโลกรัมเลยทีเดียว หากกินไม่ทัน ก็จะนำไปขายให้กับเพื่อนบ้านราคากิโลกรัมละ 40-50 บาท ชาวบ้านจึงจะตกปลาบริเวณนี้ได้มากกว่าจุดอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะมาตกปลาบริเวณกระชัง จะต้องขออนุญาตจากเจ้าของกระชังเสียก่อน

สำหรับเมนูปลาตะเพียนนั้น ส่วนใหญ่ก็จะนำไปหมักเกลือทอดรับประทาน ซึ่งปลาตะเพียนถือเป็นปลาเนื้อดี ยิ่งได้มาสดๆ จะรสชาติดีเป็นพิเศษ แต่ด้วยความที่ปลาตะเพียนนั้น เป็นปลาที่มีก้างแทรกเนื้อเยอะมาก ฉะนั้นก่อนทอดต้องทำการบั้งตัดลำตัวถี่ๆ เพื่อตัดก้างและให้น้ำมันแทรกเข้าไปในเนื้อปลาจนถึงก้างอย่างทั่วถึง จึงจะทำให้ปลากรอบและสามารถรับประทานทั้งก้างได้อย่างปลอดภัย แต่หากเบื่อปลาทอดธรรมดาแล้ว ก็สามารถพลิกแพลงทำเป็นปลาตะเพียนทอดกรอบราดพริกได้เช่นกัน เพียงแค่ทอดปลาให้กรอบและทำพริกราดเหมือนเช่นปลาราดพริกทั่วไป ซึ่งก็จะทำให้ได้อรรถรสในการรับประทานไปอีกแบบ