เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ จ.นครสวรรค์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-ศาลเจ้าแม่ทับทิม อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพื่อมอบถุงน้ำใจบรรเทาทุกข์ของมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ให้แก่กลุ่มซาเล้ง และประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในชุมชนต่างๆ

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนนำคณะมาลงพื้นที่ออนทัวร์ภาคเหนือตอนล่าง 4 จังหวัด คือ จ.นครสวรรค์ กำแพงเพชร สุโขทัย และเพชรบูรณ์ โดยมีภารกิจสำคัญ คือการตั้งใจมาเยี่ยมชาวนครสวรรค์ พร้อมกับมาติดตามสถานการณ์น้ำท่วม รวมถึงดูแลปริมาณและราคาสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมด้วย โดยตนได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดติดตามอย่างใกล้ชิด อย่าให้มีการค้ากำไรเกินควร มิฉะนั้นต้องถูกเนินคดีขั้นเด็ดขาด ซึ่งโทษสูงสุด จำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือ ทั้งจำ ทั้งปรับ อีกทั้งสั่งการให้ประสานงานกับภาคเอกชนเพื่อเร่งเติมสินค้าที่ศูนย์กระจายสินค้าแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งอุปกรณ์ ทำความสะอาด และสินค้า ซ่อมแซมบ้าน สินค้าอุปโภค บริโภคทุกชนิดด้วย นอกจากนี้ ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เกษตรจังหวัดและปศุสัตว์เร่งสำรวจความเสียหายต่างๆ ทั้งพืชผลทางการเกษตรและอื่นๆที่อยู่ในความรับผิดชอบ แล้วรายงานให้ตนทราบเพื่อมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งจัดมาตรการชดเชยเยียวยาแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งได้ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เร่งติดตามและช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ อย่าปล่อยปละเลย ติดขัดอะไรให้ประสานไปที่ส่วนกลาง

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนตั้งใจมาติดตามนโยบายประกันรายได้เกษตรกรซึ่งเป็นนโยบายสำคัญ แม้ข้าว และมันสำปะหลังที่ปลูกกันมากใน 4 จังหวัดนี้ และได้รับความเสียหายกว่าล้านไร่ แต่เกษตรกรจะยังได้รับเงินประกันรายได้เหมือนเดิม พร้อมกับเงินชดเชยจากกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งข้าวและมันสำปะหลังที่ได้รับผลกระทบในแง่การควบคุมความชื้น จะต้องตากให้แห้งก่อนนำไปขาย มิฉะนั้นจะราคาตก ส่วนในแง่ของปริมาณพืขผลทางการเกษตรจะส่งผลให้ราคาสูงขึ้นแน่นอน จึงต้องดูกลไกตลาดด้วย ขณะเดียวกัน ตนตั้งใจมาเยี่ยมกลุ่มซาเล้งเพื่อนยากด้วย เพราะเราล้มลุกคลุกคลานกันมา 3 ปีเต็ม ก่อนหน้านี้ ซาเล้งได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะราคาเศษกระดาษเหลือกิโลกรัมละ 1.50 บาท แต่เมื่อตนยื่นมือมาช่วย และเราได้ประชุมกันหลายครั้ง ทำให้ราคาดีขึ้น โดยปีนี้ตนดีใจด้วยที่เศษกระดาษราคากิโลกรัมละ 9-9.20 บาทแล้ว ซึ่งนับเป็นความสำเร็จที่ทำให้สมาคมผู้ประกอบการค้าของเก่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น