ถูกโฟกัสอีกรอบสำหรับประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ ที่หลายคนสนใจอย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องราวของอดีตพระเอกดัง เมฆ-วินัย ไกรบุตร ที่จากไปอย่างสงบ เมื่อคืนวันที่ 20 มี.ค. 2567 เวลา 23.49 น. ที่ผ่านมา จากภาวะความดันตก ติดเชื้อในกระแสเลือด กระทั่งหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่ง เอ๋-อรชัญญาช์ ไกรบุตร ภรรยาของเมฆนั้น ได้ออกมาแจ้งข่าวร้ายกับแฟนๆ ด้วยตัวเอง ผ่านโซเชียลมีเดีย ท่ามกลางความตกใจและอาลัยของแฟนๆ ทุกคน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดในรายการ Daily POP LIVE ทาง Dailynews ได้พาสาวเอ๋ อรชัญญาช์ ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของเมฆมาเปิดใจถึงปมที่ออกมาเผยเรื่องการเป็นหนี้ 8 ล้านจากการรักษาเมฆ โดยเธอเต็มใจทำเพื่อให้สามีได้รับการดูแลที่ดีที่สุดและยอมรับว่าปกปิดเมฆหลายเรื่อง ไม่อยากให้เขาเครียดและคิดว่าตัวเองเป็นภาระ แต่เพราะอยากให้เขาสู้มากๆ จึงพยายามดูแลร่างกายและจิตใจของเขาให้ดีที่สุด

เอ๋ เผยว่า “เรื่องหนี้ 8 ล้านที่ออกมาพูดไป จริงๆ ที่มันมีหนี้ตัวนี้ เพราะในการรักษาพี่เมฆ ต้องบอกตรงๆ ว่าเราดูแลเขาอย่างดีที่สุด ของทุกอย่างของพี่เมฆต้องเป็นของที่พาสเจอไรซ์ทั้งหมด อย่างสำลี ผ้าอะไรต่างๆ ก็ต้องซักด้วยน้ำร้อน ตอนที่พี่เมฆมีเลือดไหลหรือเป็นเยอะๆ ตอนนั้นเราซักผ้าถึง 4 รอบต่อวันเลยนะคะ จากนั้นพอเขาเริ่มดีขึ้นก็เป็น 3 รอบ 2 รอบ และวันละรอบ คือเอ๋พยายามใช้ของที่เลี่ยงการติดเชื้อของเขาให้มากที่สุด จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ตามมา”

“แต่มันไม่ใช่เป็นค่าใช้จ่ายเฉพาะการเข้าโรงพยาบาลเท่านั้น แต่มันมีค่าใช้จ่ายในแบบนี้ด้วย ทำให้มันเยอะมาก แต่ถามว่าเอ๋ได้บอกพี่เมฆไหม ไม่ได้บอกหมดค่ะ เพราะกลัวเขาคิดมากและคิดว่าตัวเองเป็นภาระ เอ๋กับน้องสาวของพี่เมฆ ไม่ได้บอกให้เขารู้ เขาจะรู้แค่ที่เขาบอกคือเดือนละ 150,000 บาท ตามที่เคยบอกในรายการ Daily POP LIVE ก่อนหน้านี้ว่าเขาต้องหาเงินเท่านี้ๆ เพื่อดูแลลูกและครอบครัวในฐานะหัวหน้าครอบครัว ซึ่งพี่เมฆเขาเป็นคนดีมาก เป็นสามีที่ดีและเป็นพ่อที่ดี เขาทำได้อย่างดีมาก เราเลยไม่อยากบอกส่วนนี้ว่ามันมีค่ารักษา ค่ายาเขาด้วยรวมๆ แล้วเดือนละ 300,000-400,000 บาทเลย ซึ่งเยอะมากๆ แต่เราอยากให้เขาสู้ต่อไม่ให้เครียดเขาเลยไม่รู้ที่เราปิดเขา แต่พี่เมฆสู้มาก ซึ่งจุดนี้เอ๋เองก็เป็นทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้เองด้วย เราเข้าใจคนที่มีหนี้ เพราะบางคนก็ต้องบอกว่าเขาช่วยพี่เมฆเพราะเขารัก บางคนมีก็ไม่ได้อะไร บางคนไม่มีก็กระเบียดกระเสียรเอามาช่วยเพราะรักพี่เมฆ ก็ต้องขอบคุณมากๆ เลยทำให้เอ๋พยายามที่จะหาเงินมาปิดตรงนี้เพื่อให้พี่เมฆไปอย่างสบายและสะอาดที่สุด”

เอ๋ เล่าต่อว่า “ถามว่าตอนนี้เส้นทางต่อไป เอ๋จะทำยังไง จริงๆ ตอนที่พี่เมฆป่วยเขาอยากทำหน้าที่สามีที่ดีเป็นหัวหน้าครอบครัว เขาเลยขายคอลลาเจนของเขาไป ซึ่งตอนนั้นเอ๋เองก็มีวางงานไว้กับทีมงานด้วย เรื่องการทำหรือสร้างธุรกิจใหม่ของเรา โดยตอนนี้เอ๋มีโปรเจกต์ขยายโรงงานที่ผลิตสินค้าและอาหารเสริมด้วย ซึ่งเอ๋ก็ทำเคียงเขามาตลอด ซึ่งตอนนี้คอลลาเจนเอ๋ก็ทำต่อจากพี่เมฆที่เป็นรายได้ และมีอาหารเสริมที่ทำเพิ่มเติมอีก และโรงงานอีก จริงๆ อยากให้คนที่อยากมีอาชีพหรืออยากผลิตสามารถติดตามเอ๋ได้ทางเฟซบุ๊ก Onchanya Kraibutr ซึ่งในอนาคตจะมีรายละเอียดอัปเดตค่ะ”

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Onchanya Kraibutr