จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับงานกีฬาฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากผลการแข่งขันแล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานที่มักได้รับความสนใจคือ การแปรอักษร การเดินขบวนพาเหรดล้อการเมืองไทยของทั้งสองสถาบัน

แต่ล่าสุดดูเหมือนในงานดังกล่าวจะกลายเป็นดราม่าอย่างร้อนแรง เมื่อปรากฏว่าภายในขบวนพาเหรดของฝั่งจุฬาฯ ได้มีการอัญเชิญ “พระเกี้ยว” ขึ้นตั้งไว้บนหลังคารถกอล์ฟพร้อมแห่ไปในขบวน จนเกิดกระแสวิจารณ์ขึ้น โดยหนึ่งในนั้นคือ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ที่ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ขอตราพระเกี้ยวยั่งยืนยง ผมไม่ใช่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ได้มีรุ่นลูกรุ่นหลาน ที่ได้เรียน และจบที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อได้เห็นแล้วก็อดหดหู่หัวใจ แทนนิสิตจุฬาฯ รุ่นพี่ รุ่นปู่ รุ่นย่า รุ่นตา รุ่นยาย ที่ได้เห็นภาพเช่นนี้พวกท่านๆ จะรู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ”

ผลงานดังกล่าว คือการเทิดทูนพระเกียรติ พระเกี้ยว โดยการตั้งวางไว้บนหลังคารถกอล์ฟ แทนที่จะมีขบวนแห่อย่างสมพระเกียรติ แบบที่ผ่านๆ มา หรือนี่มันแค่เป็นการหลู่เกียรติพระเกี้ยวกันแน่ หากผู้จัดงานครั้งนี้ ไม่เต็มใจที่จะเทิดทูนพระเกียรติ พระเกี้ยว ก็ไม่ต้องอัญเชิญพระเกี้ยวออกมา ตั้งบนหลังคารถกอล์ฟ อวดไปทั่วประเทศ ให้เป็นที่อุจาดตา ใคร่ขอบอกอย่างหนึ่ง ถ้าไม่รู้จริง ว่า พระเกี้ยวคือของสูง เป็นศิราภรณ์ที่ประดับบนพระเกศาของพระมหากษัตริย์ และตราสัญลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นเครื่องประดับบนพระเกศาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำมาเป็นสัญลักษณ์ เพื่อที่จะรำลึกถึงพระองค์เป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยนี้

เมื่อภาพออกมาเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องการเมือง หรือสิทธิเสรีภาพ ไม่รักไม่เคารพก็อย่าลบหลู่เกียรติ เนื่องจากพระเกี้ยวเป็นเครื่องสูง การอัญเชิญจึงต้องใช้เสลี่ยง ไม่ใช่อัญเชิญบนหลังคารถกอล์ฟ นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกคนต้องมีความภาคภูมิใจ ไม่ใช่เรื่องการเมือง หรือสิทธิเสรีภาพ ไม่รัก ไม่เคารพก็อย่าลบหลู่เกียรติ ในสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย

หากไม่รัก ไม่ภูมิใจ ก็ถวายคืน หรือ ถ้าไม่ถวายคืนก็เอาตราเกี่ยว ใส่ตู้กระจก ตั้งไว้ในพิพิธภัณฑ์จะดีกว่า
ขอตราพระเกี้ยวยั้งยืนยง
นิสิตประสงค์เป็นธงชัย
ถาวรยศอยู่คู่ไทย เชิดไชย ชโย
ม.จ.จุลเจิม ยุคล
ผมไม่ใช่ศิษย์เก่าครับ แต่ขอพูด ขอเขียนเพราะหดหู่หัวใจแทนศิษย์เก่าทั้งหลายของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยอมรับว่าเ-ือก..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @จุลเจิม ยุคล