เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ หรือ “รายงานกาสิโน”  ซึ่งกมธ.ศึกษาฯ ที่มี “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง เป็นประธานได้พิจารณาเสร็จสิ้น

หากเช็กสัญญาณจากฟากฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้าน เสียงยังคงแตกออกเป็น 2 ฝั่งคือฝั่ง “ผู้สนับสนุน” มองบวกเชิงได้เปรียบในแง่ของโอกาสในการสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจ  รวมถึงยังเป็นช่องทางหนึ่งในการหาเงินเข้าประเทศ โอกาสทองกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการจ้างงาน รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ให้ประเทศ  ซึ่งรัฐบาลปักธงเอาจริง หวังจะให้เสร็จลุล่วงในอายุรัฐบาลที่เหลือ หรืออย่างน้อย ลงเสาเข็มให้ได้ในรัฐบาลนี้

แต่ฝั่ง “ฝ่ายค้าน” ไม่เห็นด้วยเช่นนั้น โดยเฉพาะพรรค “ก้าวไกล” มองว่าเป็นการสร้างปัญหาใหม่หากรัฐบาลทำได้ไม่ดี  “รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อ ยก 6 ข้อสังเกตรายงาน Entertainment Complex พร้อมระบุว่า “เรื่องนี้เรื่องใหญ่ ถ้าทำแล้วต้องทำให้ดี ไม่ใช่ไปทำการศึกษากันอีกครั้ง เราหวังให้รายงานที่ออกจากสภา ออกมาดีที่สุด เพราะเรามีข้อกังวลว่าสุดท้ายผู้ที่จะมาลงทุนในส่วนที่เป็นกาสิโนจะเป็นทุนสีเทาหรือไม่  เป็นเหตุผลทั้งหมดที่พรรคก้าวไกลยืนยันไม่แสดงตน ไม่ร่วมโหวตกับร่างรายงานฉบับนี้”

เช่นเดียวกับพรรค “ประชาธิปัตย์” ที่ออกมาท้วงติงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน โดย “สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ท้วงติงนายกฯ ว่าเรื่องนี้ควรมีการศึกษาให้รอบคอบอย่างละเอียด และรับฟังเสียงของประชาชนให้มากกว่านี้ การที่นายกฯ พูดสนับสนุนเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ถือเป็นเรื่องอันตราย และน่ากลัวมาก จึงอยากขอให้นายกฯ ไม่ควรคิดในมุมมองของผู้บริหารธุรกิจ แต่ต้องคิดในฐานะเป็นตัวแทนของประชาชน และในฐานะของคนที่เป็นพ่อแม่ด้วย

แม้รัฐบาลจะมีการหยิบยก “สิงคโปร์โมเดล” ที่โกยรายได้เข้าประเทศ 4 แสนล้านบาทในรายงานการศึกษาฯ แต่อย่าลืมว่าเอาเข้าจริงอาจจะเกิดปัญหาตามมาทั้งปัญหาการพนัน ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์ทั้งทางแรงงานและทางเพศ ตลอดจนการค้าสินค้าหนีภาษี เป็นต้น ที่รัฐบาลยังไม่มีอะไรที่จะมารับประกันหากเกิดปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น อีกทั้งบ่อนกาสิโน อาจเป็นแหล่งฟอกเงินให้นักลงทุนธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นบ่อเกิดของการคอร์รัปชั่น

เรียกได้ว่า “โมเดลเศรษฐกิจสีเทา” ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จนถึงนาทีนี้ยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ มีอีกหลายขวากหนามอยู่เบื้องหน้ากว่าจะสำเร็จถึงฝั่งฝันคงไม่ง่าย  หรือที่สุดจะเป็นเพียงนโยบายขายฝัน  จึงต้องจับตาต่อไปว่า “รัฐบาลพรรคเพื่อไทย” จะสามารถดัน “กาสิโน” เป็นนโยบาย “เรือธง” ผลงานชิ้นโบแดงลำนี้ได้หรือไม่  เพราะหากสำเร็จกลายเป็นผลงานชิ้นสำคัญเรียกคะแนนนิยมให้กับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าแน่นอน คงต้องติดตาม.

พิราบ บานเย็น