เมื่อราว 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีผู้นำคลิปวิดีโอของพนักงานหญิงคนหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าแอบวางยาพิษเพื่อนร่วมงานมาโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนและกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว และสร้างความโกรธแค้นแก่ชาวเน็ตจีนเป็นจำนวนมาก
ในคลิปดังกล่าวเป็นภาพของพนักงานหญิงที่สวมเสื้อกั๊กสีดำจากองค์กรในมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน กำลังใส่ผงบางอย่างลงไปในเครื่องดื่มของพนักงานอีกคนที่เป็นเพื่อนร่วมสำนักงานเดียวกัน หลังจากนั้นก็รีบหลบออกไป
สำนักวิจัยและสำรวจแห่งน้ำ Hydrology and Water Resources Investigation Bureau แห่งเขตปกครองตนเองเอนซื่อถู่เจียและชนเผ่าเหมียว มณฑลหูเป่ย์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของพนักงานคนนี้ เป็นองค์กรที่ร่วมทำงานกับหน่วยงานราชการของจีน และได้ชื่อว่าเป็นองค์กรที่เข้มงวดอย่างมากในการรับพนักงาน แต่ตำแหน่งงานก็มีความมั่นคงสูง
สื่อท้องถิ่นรายงานว่าในข้อความจากแอปพลิเคชันวีแชต เผยว่าพนักงานหญิงที่ตกเป็นเหยื่อในการวางยาครั้งนี้รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ปกติในเครื่องดื่ม หลังจากที่เธอรู้สึกได้ว่าน้ำที่เธอดื่มเข้าไปนั้นมีรสชาติแปลกประหลาด ในตอนแรกเธอสงสัยว่าเป็นแค่ความผิดปกติของน้ำดื่มในสำนักงาน แต่เพื่อความปลอดภัย เธอจึงนำน้ำที่เธอต้มเองแล้วบรรจุขวดมาดื่มที่สำนักงาน ถึงอย่างนั้น น้ำก็ยังคงมีรสชาติแปลก ๆ
หลังจากที่เธอนึกขึ้นได้ว่าเคยมีเพื่อนหยอกเธอว่าอาจจะมีคนใส่อะไรบางอย่างลงไปในน้ำดื่มของเธอ พนักงานหญิงซึ่งกำลังตั้งครรภ์รายนี้ก็เลยคิดแผนจับผิดโดยตั้งเครื่องไอแพดของเธอเพื่อบันทึกคลิปวิดีโอในภาพของโต๊ะทำงานของเธอ เพื่อจะได้ดูว่ามีใครมาทำอะไรที่โต๊ะของเธอหรือไม่ ซึ่งทำให้จับตัวผู้กระทำผิดได้ในที่สุด
พนักงานหญิงที่ลงมือวางยาพิษเพื่อนร่วมงานสารภาพว่าทำไปเพราะไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานคนนี้ได้ลาคลอด เพราะคิดว่าตัวเองคงจะไม่สามารถรับทำงานแทนเพื่อนไหวในระหว่างที่เธอลา
เหยื่อสาวผู้โดนวางยาจึงแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้เปิดการสืบสวนคดีขึ้น ด้านเจ้าหน้าที่ของ Hydrology and Water Resources Investigation Bureau ก็รายงานเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า ทางองค์กรกำลังสืบสวนเหตุการณ์ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง และกำลังรอผลการสอบสวนจากฝ่ายตำรวจก่อนจะดำเนินการใด ๆ ต่อพนักงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายของจีนชี้ว่า ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าพนักงานหญิงที่ลงมือวางยาพิษมีเจตนาทำร้ายเพื่อนร่วมงานที่ตั้งครรภ์จริง เธอก็จะตกเป็นผู้ต้องหารคดีอาชญากรรม ไม่ว่าสารที่เธอใช้จะมีพิษจริง หรือใช้สารมีพิษทำร้ายร่างกายบุคคลอื่นได้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม
ที่มา : news18.com, scmp.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, Weibo
